"Muay Thai Lab" ตีโจทย์คนสนมวยดันเป็นกีฬาไลฟ์สไตล์

"Muay Thai Lab" ตีโจทย์คนสนมวยดันเป็นกีฬาไลฟ์สไตล์

"Muay Thai Lab" ตีโจทย์คนสนมวยดันเป็นกีฬาไลฟ์สไตล์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

แม้ธุรกิจค่ายมวยจะบูมขั้นสุด แต่กว่า 90% จะเป็นนักเรียนชาวต่างชาติ ที่เข้ามาเรียนเพื่อฝึกฝน และนำไปต่อยอดเพื่อกลับไปทำธุรกิจค่ายมวยยังประเทศของตน แต่นางสาวจุติพร สุขศรีวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร มวยไทย แล็บ ซึ่งมองเห็นโอกาสของธุรกิจนี้ที่สามารถทำให้การต่อยมวยเป็นไลฟ์สไตล์รูปแบบหนึ่งเหมือนกับการเล่นโยคะ

ชูจุดขาย"ครั้งหนึ่งในชีวิต" โดย มวยไทย แล็บจะเน้นมอบประสบการณ์การต่อยมวยไทยตั้งแต่ประวัติ ความเป็นมา วิธีไหว้ครู ชกลมออกท่วงท่า และได้ล่อเป้ากับครูฝึก ภายในเวลา 90 นาที ต่อยเสร็จจะมีของที่ระลึก และใบประกาศนียบัตรพิเศษสำหรับลูกค้า ในราคา 990 บาท ตอบโจทย์ลูกค้าต่างชาติแบบวอล์กอินมีเวลาระยะสั้น ๆ ในไทย รวมทั้งกลุ่มคนไทยที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาทดลองต่อยมวยดู ซึ่งรูปแบบนี้ยังไม่มีค่ายไหนทำ

ขณะเดียวกันยังมีรูปแบบการขายแบบเป็นคูปองสำหรับคนที่เริ่มติดใจต้องการมาต่อยซ้ำโดยคูปองจะจำหน่ายแบบเหมา10 ครั้ง 6,000 บาท มีอายุ 1 ปี สามารถแบ่งกับกลุ่มเพื่อนได้ โปรโมชั่น จำนวน 20 ครั้ง อัตราค่าบริการ 9,000 บาท และแบบตัวต่อตัวกับครูฝึก อัตราค่าบริการ 1,600 บาท/ครั้ง โปรโมชั่น 10 ครั้งเพียง 15,000 บาท

พร้อมกับมองเห็นตลาดลูกค้ากลุ่มองค์กร เนื่องจากที่ผ่านมากลุ่มชาวต่างชาติที่เดินทางมาสัมมนาในไทยแล้วต้องการศึกษาวัฒนธรรมของไทยจะเรียนรู้มวยไทยผ่านการชมมวยไทยที่เวทีราชดำเนินซึ่งไม่สามารถไปสัมผัสได้จึงตั้งใจเป็นที่แรกที่จะร่วมกับโรงแรมและออร์แกไนซ์ให้มวยไทยแล็บแทรกเป็นเป็นโปรแกรมในการพักผ่อน มีเรตราคาอยู่ที่ 1,290 บาท/ คน ในเวลา 1 ชม.ครึ่ง รองรับได้ครั้งละ 20 คน

รวมทั้งกลุ่มสเปเชี่ยล กรุ๊ปแบบกลุ่มเพื่อน/ครอบครัวราคา 1,800 บาท/คน ได้อบรมมวยไทยแบบกลุ่มเล็กแบบส่วนตัว

นางสาวจุติพรเผยว่า จุดเด่นของที่นี่ยังมีเรื่องของทำเลที่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยอยู่ในท่ามหาราช แหล่งคอมมูนิตี้ มอลล์แหล่งใหม่ มีท่าเรือที่มีผู้คนสัญจรวันละ 3,300 คน/วัน ห่างจากวัดพระแก้วแหล่งท่องเที่ยวซิกเนเจอร์ที่มีนักท่องเที่ยวหมุนเวียนต่อเดือนอยู่ที่ 400,000 คน/เดือน เพียง 5 นาที และอยู่ท้ายรั้วมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ ทำให้มั่นใจได้ว่ากลุ่มเป้าหมาย อย่างกลุ่มนักท่องเที่ยว และนักเรียน-นักศึกษาจะสามารถเดินทางมาที่นี่ได้อย่างสะดวกสบาย

รวมถึงโปรแกรมการต่อยของที่ถูกออกแบบร่วมกันระหว่างนักวิทยาศาสตร์การกีฬาและครูฝึกที่มีประสบการณ์มากกว่า200 แมตช์ และก่อนที่ลูกค้าจะได้ต่อยจะมีการเช็กสภาพร่างกายจนมั่นใจว่าจะไม่เกิดอันตราย ทำให้มั่นใจได้ว่าระหว่างการต่อย และหลังการต่อยจะไม่มีอันตรายเกิดขึ้น

ทางแบรนด์ตั้งเป้าว่าจะดันให้คนทั่วไปได้รับประสบการณ์จากการต่อยมวยจากที่นี่และหันมานิยมเช่นเดียวกับการออกกำลังกายรูปแบบอื่นรวมทั้งยกระดับมาตรฐานค่ายมวยให้มีความพรีเมี่ยมทั้งบริการ และสถานที่ด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook