อิสระ วงศ์รุ่ง นักบริหารผู้ขับเคลื่อน KLeasing สู่ความสำเร็จ

อิสระ วงศ์รุ่ง นักบริหารผู้ขับเคลื่อน KLeasing สู่ความสำเร็จ

อิสระ วงศ์รุ่ง นักบริหารผู้ขับเคลื่อน KLeasing สู่ความสำเร็จ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คงไม่ผิดนัก ถ้า GM จะบอกว่า อิสระ วงศ์รุ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด (KLeasing) เป็นนักบริหารมากฝีมือ ที่มีผลงานการบริหารงานอันโดดเด่นน่าจับตา ตลอดช่วง 6 ปีที่อิสระเข้ามากุมบังเหียน KLeasing ตัวเลขการเติบโต ขององค์กรเพิ่มขึ้นมาโดยตลอด

ปี 2553 KLeasing มียอดปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อและลีสซิ่งรถยนต์กับ สินเชื่อเพื่อผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ทั้งสิ้น 41,616 ล้านบาท โดยเมื่อเทียบกับยอดรวมของปี 2552 ปรากฏว่า KLeasing เติบโตถึงร้อยละ 33.31 รวมทั้งมีผลกำไรรวมเท่ากับ 393 ล้านบาท เติบโตจากปี 2552 คิดเป็นร้อยละ 63.15 และมียอดสินเชื่อคงค้างรวม 53,908 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้านั้นถึงร้อยละ 23.63% ที่สำคัญ KLeasing ถือเป็นผู้นำในด้านการให้บริการสินเชื่อสำหรับรถซูเปอร์คาร์อีกด้วย

ยังไม่รวมรางวัลระดับประเทศและระดับภูมิภาคเอเชียที่ KLeasing หนึ่งในธุรกิจสำคัญของเครือธนาคารกสิกรไทย กวาดมาได้แบบหลายปี ต่อเนื่องกัน เท่านี้ก็การันตีได้ถึงความสามารถในการบริหารงานของอิสระได้เป็นอย่างดี

ในโอกาสที่ KLeasing ดำเนินธุรกิจมาครบ 6 ปี และกำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 7 ในการเป็นผู้นำด้านการให้บริการสินเชื่อรถยนต์ที่หลากหลายและครบวงจร GM ชวนอิสระมาพูดคุยในเรื่องธุรกิจเช่าซื้อและลีสซิ่งรถยนต์ที่เขาคลุกคลีมากว่า 24 ปี ทั้งเรื่องการทำงาน ชีวิตด้านอื่นๆ และโดยเฉพาะเรื่องกีฬากอล์ฟที่เขารัก

ความที่อิสระทำงานคลุกคลีอยู่ในธุรกิจเช่าซื้อและลีสซิ่งรถยนต์ มาอย่างยาวนาน ทำให้เขาเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายในธุรกิจนี้ อิสระบอกว่าในอดีตหากไม่ใช่ลีสซิ่งของบริษัทรถยนต์จะมีก็แต่ลีสซิ่งของบริษัทเงินทุนหรือไฟแนนซ์เท่านั้น จำนวนผู้ประกอบการจึงมีไม่มาก ต่างกับปัจจุบันที่มีผู้ประกอบการจำนวนมาก การแข่งขันจึงสูงตามกัน

"สมัยก่อนธนาคารพาณิชย์ไม่ทำธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ บริษัทไฟแนนซ์จึงครองตลาดธุรกิจนี้ แต่พอแบงก์ชาติเปิดเสรีทางการเงินให้ธนาคารพาณิชย์สามารถทำธุรกิจประเภทนี้ได้ ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ก็กลายมาเป็นผู้เล่นรายใหญ่ในตลาด" อิสระบอกกับเรา

เมื่อธุรกิจเปลี่ยน ผู้บริหารองค์กรก็ต้องปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลง อิสระเล่าว่า สถาบันการเงินที่ปล่อยสินเชื่อรถยนต์ได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ การบริหารงานให้ทันยุคทันสมัยมากขึ้น เขายกตัวอย่าง KLeasing ซึ่งอยู่ในเครือของธนาคารกสิกรไทย ที่หันมาออกผลิตภัณฑ์ จัดแคมเปญการตลาดร่วมกับผลิตภัณฑ์ของธนาคาร เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด และเป็นทั้งจุดแข็งและสร้างจุดขายที่ผู้บริการรายอื่นไม่มี

อิสระบอกว่าหน้าที่สำคัญของเขาคือสร้างแบรนด์ KLeasing ให้เหนือกว่าคู่แข่ง เพื่อเป็นผู้นำในธุรกิจเช่าซื้อและลีสซิ่งรถยนต์ให้ได้ ซึ่งเวลาที่ผ่านมา ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เขาทำได้จริงๆ

ไม่เพียงหน้าที่รับผิดชอบใน KLeasing เท่านั้น เพราะไม่นานมานี้ อิสระได้รับคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการสมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทย อีกด้วย เขาบอกว่างานในสมาคมธุรกิจเช่าซื้อไทยเป็นงานเพื่อส่วนรวม ซึ่งมี ส่วนช่วยเสริมกับงานที่เขารับผิดชอบใน KLeasing ด้วย เพราะเขาได้เห็นข้อมูลส่วนกลางทั้งหมดของกระทรวงอุตสาหกรรมซึ่งเป็นประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจของ KLeasing และผลพลอยได้อีกอย่างที่ตามมาก็คือ มันทำให้แบรนด์ KLeasing เด่นชัดยิ่งขึ้น

"การไปร่วมงานต่างๆ ในฐานะของประธานกรรมการสมาคมฯ อย่างน้อยๆ คนก็ได้รู้แล้วว่าผมเป็นผู้บริหารของ KLeasing ยิ่งได้เห็นหน้าผมบ่อยๆ การรับรู้ต่อ KLeasing ก็มากขึ้น"

ตลอด 24 ปีที่อิสระคลุกคลีอยู่ในธุรกิจเช่าซื้อและลีสซิ่งรถยนต์ เขาได้สร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่งกับคนในแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์หรือสื่อมวลชนสายยานยนต์ ซึ่งเครือข่ายเหล่านี้ สามารถช่วยผลักดันให้ KLeasing เติบโตอย่างมั่นคงได้ในอนาคต

เราจึงอยากรู้ว่า อิสระมีนักธุรกิจ คนไหนที่ถือเป็นต้นแบบในการทำงาน ?

คำตอบของหัวเรือใหญ่แห่ง KLeasing คือ บัณฑูร ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) นั่นเอง

อิสระบอกกับเราว่า เขาจำคำสอนของ บัณฑูร ล่ำซำ ที่เคยพูดกับเขาได้เป็นอย่างดี ว่า "ความเสี่ยงของผู้บริหาร คือความรัก ที่มีต่อสินค้าและบริการของตัวเอง แต่ลูกค้า ไม่อาจรู้ถึงความรักนั้นได้ เพราะไม่เห็นข้อดีของสินค้า และไม่สามารถรับรู้ถึงจุดเด่น ของสินค้า หลักการสำคัญจึงอยู่ที่ผู้บริหาร ต้องสื่อสารจุดเด่นของสินค้าออกไปให้ลูกค้าได้รู้"

ซึ่งนั่นเป็นหลักการตลาดที่อิสระยึดถือปฏิบัติมาจนถึงปัจจุบัน

6 ปีในการดำเนินธุรกิจของ KLeasing องค์กรแห่งนี้ได้รับการยอมรับในฐานะผู้นำในตลาดการให้บริการสินเชื่อรถยนต์ที่ครบวงจร เป็นเพราะการใช้ยุทธศาสตร์ การยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) ที่มุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้วยนวัตกรรมสินค้าที่นำเสนอผ่านช่องทาง จำหน่ายที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ตลอดจน ความมุ่งมั่นในการให้บริการที่เหนือชั้นกว่าคู่แข่ง นั่นทำให้เราไม่แปลกใจเลยที่ KLeasing สามารถกวาดรางวัลมาได้จากหลายสถาบัน ทั้งรางวัลระดับประเทศ คือ Best Car Leasing โดย บริษัท กรังด์-ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้จัดงาน Bangkok International Motor Show โดย KLeasing คว้ามาได้ 3 ปีซ้อน คือในระหว่างปี 2552-2554 และรางวัลระดับภูมิภาคเอเชีย Frost & Sullivan Award ASEAN Automotive Finance Company of The Year 2008 (Thailand) และ Frost & Sullivan Asia Pacific Automotive Awards 2009

รางวัลเหล่านี้มีความหมายกับอิสระและบุคลากรของ KLeasing อย่างมาก เพราะใช่เพียงแต่สร้างชื่อเสียงให้กับองค์กรเท่านั้น แต่เป็นสิ่งที่แสดงถึงความสำเร็จที่สามารถขึ้นมายืนอยู่แถวหน้าได้ภายในระยะเวลา 6 ปี

นอกเหนือจากการทุ่มเทให้กับงาน อีกด้านของชีวิต สิ่งที่อิสระทุ่มเทให้ไม่น้อยไปกว่ากันนั่นคือ ความหลงใหลในกีฬากอล์ฟของเขา

ย้อนกลับไปสมัยที่เขาเริ่มต้นทำงานใหม่ๆ เมื่อราว 20 ปีก่อน ก่อนหน้านั้นเขาเล่นกอล์ฟไม่เป็น แต่สาเหตุที่ทำให้หนุ่มคนนี้ ต้องศึกษาเรียนรู้กีฬากอล์ฟเพราะได้รับ มอบหมายให้เป็นตัวตั้งตัวตีในการพาพนักงานร่วมบริษัทไปเข้าร่วมดวลวงสวิงกับคู่ค้า แต่เพราะไม่ได้ทุ่มเทฝึกซ้อมอย่างจริงจัง จึงทำให้ผลงานการตีกอล์ฟของมือใหม่อย่างอิสระ และทีมไม่ได้สวยหรูเลยแม้แต่น้อย

ความผิดพลาดในครั้งนั้นเป็นแรงผลักดัน ให้อิสระทุ่มเทฝึกซ้อมตีกอล์ฟอย่างจริงจัง โดยเข้ารับการฝึกกับโปรกอล์ฟมืออาชีพ จากวันนั้นถึงวันนี้ กีฬากอล์ฟได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตอิสระไปแล้ว เขาคว้าถ้วยรางวัลมาได้จากการแข่งขันในหลายๆ รายการ ทั้งถ้วยไฟลท์ A และถ้วยไฟลท์ B โดยแต่ละสัปดาห์เขาจะแบ่งเวลาไปตีกอล์ฟอย่างสม่ำเสมอ

อิสระบอกว่ากีฬากอล์ฟได้ให้อะไรกับเขาหลายอย่าง ได้มิตรภาพใหม่ระหว่างนักกอล์ฟด้วยกันซึ่งมาจากหลากหลายอาชีพ ได้ฝึกปรือการวางแผน ทำให้เมื่อต้องทำงานอะไรก็ตามเขาจะวางแผนไว้อย่างรอบคอบรัดกุมเสมอ

"เล่นกอล์ฟ 18 หลุม ใช้เวลา 4-5 ชั่วโมง ช่วงเวลานั้นมันมีทั้งความสุขและความทุกข์ปนกันไป เล่นกอล์ฟได้ฝึกทั้งความอดทน ฝึกสมาธิ แพ้-ชนะไม่ได้วัดกันที่หลุมแรก ต้องดูกันในหลุมสุดท้าย หลุมที่ 18 ดังนั้น จึงมีโอกาสให้แก้ตัวได้ เมื่อพลาดพลั้งก็ให้อดทนและพยายามสู้ต่อไป ไม่แน่ว่าเล่นๆ ไปอาจจะชนะหรือพบกับความสำเร็จก็ได้"

นอกจากนั้นสิ่งที่สำคัญอีกอย่างของการออกรอบคือ ทำให้ได้เรียนรู้นิสัยของคนอื่นๆ ที่แตกต่างกันไป

"เวลาเล่นกอล์ฟจะรู้เลยว่าคนนี้ใจเย็น คนนั้นใจร้อน ทำให้รู้ด้วยนะว่าคนที่เล่นด้วยมีความซื่อสัตย์แค่ไหน ทำให้เรากลับมา พิจารณาว่าจะคบหาหรือทำธุรกิจกับเขาดีไหม" อิสระพูดทิ้งท้าย

พูดอย่างนี้ สงสัยต้องลองหาเวลาว่าง ไปออกรอบกับเขาดูสักครั้งซะแล้ว

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook