ลดน้ำหนักแบบวัยรุ่นผู้ชาย ที่ใช้ชีวิตอยู่หอพัก มีกระทะไฟฟ้า 1 ชิ้น

ลดน้ำหนักแบบวัยรุ่นผู้ชาย ที่ใช้ชีวิตอยู่หอพัก มีกระทะไฟฟ้า 1 ชิ้น

ลดน้ำหนักแบบวัยรุ่นผู้ชาย ที่ใช้ชีวิตอยู่หอพัก มีกระทะไฟฟ้า 1 ชิ้น
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

อาจจะยาวสักหน่อย แต่อยากให้อ่านครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่กำลังลดน้ำหนัก แต่ติดปัญหาในเรื่องอาหารการกิน เพราะวันนี้เรามีวิธีดูแลตัวเองให้อิ่มท้องแถมสุขภาพดีมาฝาก ที่สำคัญมีเพียงกระทะไฟฟ้าธรรมดาๆ ก็ลดน้ำหนักได้แล้ว

[REVIEW] การลดน้ำหนักแบบวัยรุ่นผู้ชายที่ใช้ชีวิตอยู่หอพักมีเตาแก๊สไฟฟ้าโง่ๆ1ชิ้นจนผลสุดท้ายน้ำหนักหายไป27กิโลใน9เดือน

สวัสดีครับ อันดับแรกผมจะมาเล่าประวัติผมก่อนคร่าวๆ ละกัน 555

ตอนนี้ผมอายุ 24 ทำงานมาได้ 1 ปี สมัยเรียน ม.ปลายก็ยังไม่ค่อยที่จะอ้วนเท่าไหร่ แต่มาเริ่มอ้วนก็ตอนสมัยเข้าปี 1-4 จำได้ว่าตอนเข้า ปี 1 ใหม่ๆ น้ำหนักน่าจะ 70 ต้นๆ แต่พอจบปี 4 เท่านั้นแหละ น้ำหนักขึ้นมาอยู่ที่ อีก 3 โล 100 (97นั่นเอง)

แม่เจ้า แต่ผมเป็นคนที่ขี้เกียจ ใครพูดไรไม่สนหรอก เคยมีอารมณ์แบบว่า บุคลรอบข้างตัวผมนั้นชวนผมลดน้ำหนัก ผมก็ไม่ลดกลับตอบไปว่า "คนเราเกิดมาก็ต้องตาย ไม่รู้จะตายวันไหน วันนี้ก็กินให้มีความสุขดีกว่า อ้วนก็ต้องตายผอมก็ต้องตายอยู่ดี" ดู๊ดูมันพูดมันช่างโง่อะไรขนาดนี้ (อยากจะย้อนกลับไปด่าตัวเอง)

ส่วนเหตุผลที่ผมลดน้ำหนักนั้นก็เกิดจากการที่ เริ่มรับสภาพตัวเองไม่ไหว ทำไรก็เหนื่อย เดินขึ้นสะพานลอยก็เหนื่อยแล้ว ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง ใส่เสื้อผ้าลำบาก หลายๆ คนเริ่มจะทักว่าไม่ลดไม่ได้แล้วนะ และที่สำคัญอีก 1 ปีผมจะเข้ารับพิธีพระราชทานปริญญาบัตรเลยอยากได้ภาพตอนใส่ชุดครุยแบบหุ่นดีๆหน่อย ^^

ปล. ณ ตอนเริ่มลดใหม่ๆ เคยคิดว่าอยากจะให้ถึงจุดที่มี 6pack แบบคนอื่นดูบ้าง แต่ไม่รู้จะทำได้ไหมเพราะอ้วนขนาดนั้น แต่ตอนนี้ ณ ปัจจุบันเริ่มเห็นลางๆแล้ว

เรามาเข้าเรื่องกันดีกว่า ประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่า ชีวิตผมเป็นเด็กต่างจังหวัดมาทำงานในกรุงเทพก็มาอาศัยหอพักทำให้มีอุปกรณ์ทำครัวไม่เยอะและผมก็ทำอาหารไม่เก่งด้วยอาศัยว่าทำเองกินเองคนเดียวไม่อร่อยช่างมันอิ่มเหมือนกัน 5555
ดังนั้นในห้องผมเลยจะมีแค่ ตู้เย็นสำหรับใส่ผักและของสด ไมโครเวฟ เครื่องครัวนิดหน่อย พวกเขียง มีด อะไรพวกนี้ ส่วนพระเอกของงานนี้คือ กระทะไฟฟ้าสีแดงนั่นเอง มาดูกันว่า เด็กผู้ชายที่ทำอาหารไม่ค่อยจะเก่ง แต่จะทำเมนูลดความอ้วนง่ายๆ แต่ใช้ได้จริงๆ นั้นทำยังไง

***ในที่นี้ผมจะไม่พูดถึงการนับแคลอรี่นะครับ สำหรับผมผมนับ กะด้วยสายตาคร่าวๆมื้อนึงผมไม่เกิน 500 แคลแน่ๆ แต่ที่จะไม่พูดถึงเพราะว่าบางคนไม่เข้าใจแล้วจะเอาไปเป็นเหตุผลในการขี้เกียจลดน้ำหนักมากกว่า ของบางอย่างอาศัยความรู้สึกกะปริมาณด้วยสายตาถ้าทำจริงๆในระยะเวลา 2-3 เดือนขึ้นไปยังไงก็ต้องเห็นผล ไม่ใช่ 1สัปดาห์ก็ท้อแล้วว่าทำไมน้ำหนักไม่ลงซักที***

***บอกไว้ก่อนนะครับสำหรับการลดน้ำหนักแล้ว 30%มาจากการออกกำลังกาย อีก 70% นี่อาหารและโภชนาการล้วนๆ ครับ***
เมนูและข้อคิดต่างๆนั้นผมได้มาจาก IG ของ ดีเจภูมิ ของ พี่ฟ้าใส ของพี่จอร์จ GGTK (อดีตจอร์จ VRZO) และขอบคุณรายการ WHAT'S THE FAT?! มากๆ (ใครอยากลดน้ำหนักแบบถูกวิธีไปดูซะนะครับ ดูให้ครบทุกตอนเลย ยิ้มโคตรได้ประโยชน์)

มาเริ่มกันเลยนะครับ เกริ่นมาเยอะไม่เข้าสาระซักที 555

มาดูการกินของผมสมัยที่ยังไม่คิดลดความอ้วนและสภาพร่างกายตอนนั้นเป็นยังไง

และนี่คืออาหารของผมสมัยก่อน ทั้งทอด ทั้งน้ำมันเยอะๆอร่อยนักแหละ


และนี้คืออุปกรณ์พระเอกของการลดน้ำหนักในครั้งนี้


ผมเริ่มต้นลดน้ำหนักประมาณวันที่ 1 กันยายน 2557 ด้วยน้ำหนัก 93.4 กิโลกรัม รูปช่วงอ้วนๆตอนนั้นแทบจะไม่ค่อยมีเพราะด้วยความที่อ้วนผมเลยไม่ค่อยที่จะชอบถ่ายรูปตัวเองเก็บไว้ แม้แต่ตอนเริ่มลดใหม่ๆก็ไม่ได้ถ่ายเอาไว้ มาถ่ายเอาไว้ตอนเหลือเลข 8 เป็นต้นไป
พอเริ่มที่จะลดน้ำหนักปุ้ปผมก็ไปซื้อของที่โลตัสทันที ลงทุนไปเยอะ ทั้งมีดใหม่ น้ำมันมะกอก เครื่องชั่งน้ำหนักแบบดิจิตอล

มาถึงอาหารช่วงแรกๆที่ผมทานนั้นผมเลือกที่จะทำ กระเพราอกไก่แบบคลีนๆ มีฟักทองนึ่งและผักต้มเป็นเครื่องเคียง อย่างที่ผมบอกตอนแรกว่า ผมเป็นคนกินง่ายดังนั้นเมนูผมจะไม่ค่อยเยอะและจะกินวนไปวนมาเป็นเวลานานๆ 555


สูตรง่ายๆของผมคือ ข้าวกล้องหุงสุก 100 กรัม (1ทัพพี)/มื้อ อกไก่สำหรับนำมาทำเมนูอาหาร 150 กรัม ผักและฟักทองเท่าไหร่ก็ได้ ถ้าเราไหว พยายามลดแป้ง ผมใช้คำว่าลดไม่ใช่ "งด" นะครับ ร่างกายขาดแป้งทำให้ผอมไวจริง แต่ก็กลับมาโย่ๆได้ไวเหมือนกัน กินแบบนี้ 3 มื้อ เหมือนจะน้อยแต่อิ่มทุกมื้อนะครับ เพราะว่าเราเน้นกับข้าว มากกว่าข้าวกล้อง


อาศัยตื่นเช้ากว่าปกตินิดนึงมาทำกับข้าวสำหรับมื้อเช้าและมื้อเที่ยงสำหรับไปทานที่ทำงาน ที่ทำงานผมมีไมโครเวฟเลยสามารถเอาไปอุ่นให้ร้อนได้ผักเราก็ต้มแล้วใส่ตู้เย็นเอาไว้ได้


ช่วงลดแรกๆผมก็ออกกำลังกายโดยการทั้งเดินแหละวิ่งครับ สลับกันไป แรกๆ 30 นาที ได้ไม่ถึง 3 กิโลด้วยซ้ำ ก็เหนื่อยจะตายแล้ว


แต่ปัจจุบันทำเวลาได้ดีขึ้นครับ

ส่วนมื้อระหว่างวันผมจะทานเป็นพวกผลไม้ เช่นแอปเปิ้ล กล้วย อะไรแบบนี้ครับ

หลังๆมีเมนู แปลกๆมา อาจจะไม่เหมือนของคนทั่วไป แต่ผมเป็นพวกชอบมโนว่า เหมือนและอร่อยครับ 5555 ยังคงคอนเซปเดิม ทำกินคนเดียวไม่อร่อยช่างมันเรากินได้
***ส่วนตัวผมนั้นผมจะทานข้าวหรือพวกแป้ง 100 กรัมต่อมื้อครับ หรือประมาณ 1ทัพพี หรือขนมปัง 2 แผ่น เน้อสัตว์ 150กรัม ผักไม่อั้นครับ ใช้น้ำมันมะกอกในการปรุงอาหาร ในปริมาณน้อยครับ ผมไปหาซื้อขวดฉีดๆเรียกว่าไรไม่รู้อะครับมาใส่น้ำมันมะกอกแล้วก็ฉีดลงบนกะทะมันเวิร์กมากๆ ได้น้ำมันมะกอกในปริมาณน้อย*** ดีเจภูมิเค้าแนะนำมาครับ

เริ่มมีข้าวกล้อง+อกไก่ต้ม+น้ำจิ้มข้าวมันไก่ผสมน้ำนิดหน่อยเพื่อเจือจางแคลลอรี่ (มโนว่าเป็นข้าวมันไก่)


ข้าวผักอกไก่


อกไก่ผัดซอส (ผมก็ผัดไปมั่วๆใส่โน่นใส่นี่กินได้เหมือนกัน555)


ลาบอกไก่ ผมใช่ผงลาบสำเร็จรูปที่มาขายตามห้างทั่วๆไปครับ เน้นคลีนๆก็จริงๆแต่เอาสะดวกเข้าว่าครับ คลีนบ้าง เกือบๆคลีนบ้าง หยวนๆกันไป ทำไรเราต้องทำแล้วมีความสุขครับ สุดโต่งมากไป ตึงมากไปก็ไม่ดี

สลัดอกไก่ใส่ทูน่ากระป๋อง ทูน่าในน้ำแร่ ^^

ปลานึ่ง


อกไก่หมักเครื่องปรุงสำเร็จรูปเหมือนเดิมครับ มีขายตาม 7-11


ต้มจืดผักกาดขาวใส่อกไก่ครับ ***คะนอรสไก่ก้อนเดียวจบ***


เวลาผมไปออกกอง หรือไปทำงานต่างจังหวัดก็เซตนี้เลยครับ 7-11 มีขายครบเลย ขนมปัง+ทูน่าในน้ำแร่+น้ำเต้าหู้


เมนูอันนี้ผมได้มาจาก IG พี่จอร์จครับ แซนวิชแฮมอกไก่งวงรมควันราดซอสบาบีคิว ของมีขายที่วิลล่ามาเก็ตครับ ผมเอาไว้ทานมื้อเช้า เพราะทำไม่ถึง 5นาที อยู่ท้องมากๆ


เวลาทำก็เอาหนมปังโฮลวีตไปปิ้งบนกะทะแดงของผมนี่แหละ


เมนูข้าวกับอกไก่กระเทียมพริกไทย ช่วงหลังๆผมชอบเมนูนี้มากๆๆ กินแทบทุกวันเพราะทำง่ายอร่อยด้วย ราดซอสพริกศรีราชานะ อย่างอร่อย


แต่ห้องผมไม่มีครกสำหรับตำกระเทียมพริกไทย เลยต้องใช่วิธีนี้

ดึกๆเวลาหิวก็นี่เลยครับ ไข่คน+แฮมอกไก่งวง (ผมจะมีแฮมอกไก่งวงติดตู้เย็นไว้เสมอ) วิธีทำก็ ไข่ไก่เต็มใบ1ฟอง+ไข่ขาวอีก 2-3 ฟอง ตีไม่ต้องให้เข้ากันโยนลงกะทะแดง จากนั้นคนๆ เป็นอันเรียบร้อย


อันนี้ผัดผักหน่อไม้ฝรั่ง+กะหล่ำ+อกไก่ครับ ผักเท่าไหร่ก็ได้แล้วแต่ชอบ ผมผัดทีนึง/มื้อ ผักแทบล้นกะทะ


ทำไข่ตุ๋นก็ใช่กะทะแดงทำอีกแล้วครับ ไข่เต็มใบ 1 ฟอง +ไข่ขาว 2 +อกไก่100กรัม

ขนมผมก็กินนะครับ บุฟเฟ่ผมก็ไป แต่เน้นพวกซีฟู๊ดกับพวกเนื้อไม่ติดมัน เราเป็นคนครับต้องเข้าสังคมบ้าง ไม่งั้นเพื่อนเลิกคบหมด แอลกอฮอ ผมก็ดื่มครับแต่ไม่บ่อยและไม่จัดหนักเหมือนแต่ก่อน มีเทคนิคง่ายๆก็คือแทนที่จะดื่มเบียร์ก็เปลี่ยนเป็นเหล้า+โซดา+น้ำครับ แล้วแต่ชอบ งดน้ำอดลมไป ถ้ารู้ว่าตอนเย็นมีปาตี้ ก็ทานเช้ากะเที่ยงให้น้อยลงนิดนึงเพื่อไปจัดหนักในมื้อเย็น เหมือนเฉลี่ยๆให้มันเท่าๆกันในแต่ละมื้อครับ ทำไรเราต้องทำแล้วมีความสุข ถ้าไม่มีความสุขมันจะทำได้ไม่นานครับ


กาแฟดำหรืออเมริกาโน่ กินได้ครับ ขมนิดนึงแต่มีข้อดีเพราะมันจะไปกระตุ้นระบบการเผาพลาญในร่างกายครับ แต่ไม่แนะนำให้ดื่ม 4-5 ชั่วโมงก่อนนอนเดี๋ยวจะพานอนไม่หลับเอา


ผมทำแบบนี้กินแบบนี้ไปได้ 1สัปดาห์ น้ำหนักผมลงมาเท่านี้ครับ


พอเริ่มน้ำหรักลงผมก็ไปซื้อเครื่องออกกำลังกายครับ เนื่องจากผมเลิกงานเย็น ไม่มีเวลาไปออกกำลังกายที่ฟิตเนส เลยตัดปัญหาและไม่หาข้ออ้างให้ตัวเองครับ กลับดึกแค่ไหน อย่างน้อยๆออกซักนิดก็ยังดีกว่าไม่ออกเลย


ท่าหลักๆที่เล่นก็หาได้ตาม youtube ครับ หรือในรายการ what the fat ก็มีครับ อย่างที่บอก เซิซหาคำว่า Biceps, Triceps, Back, Chest, Shoulder,Legs แล้วตามด้วยคำว่า workout หรือ workout with dumbbell จัดไปครับ ลงมื้อทำ เลยอย่าช้า


ผ่านมา 3 เดือน ลงมา 10 โลแล้วค้าบบ ผมก็ยังคงกินเหมือนเดิม เล่น Weight training เล่น cadio โดยการวิ่งวันละ 3-5 กิโล วันเว้นวันครับ


สับไก่ทุกวันก็บริหารไบเซปได้ครับ 555


เริ่มผอมขึ้นมาแล้ว อันดับแรกเลยคือเริ่มมีความมั่นใจครับ เริ่มที่จะถ่ายรูปตัวเองเก็บไว้แล้ว 555

มาดูด้านการพัฒนาร่างกายหลังจากคุมอาหารและเล่นกีฬา+ Weight training ตามแบบฉบับบ้านๆแล้ว


ผมก็ทำแบบนี้ กินอาหารแบบที่ด้านบนได้กล่าวไป วนไปวนมา ซ้ำไปซ้ำมา จนปัจจุบันผ่านมาแล้ว9เดือน น้ำหนักลงมาอยู่ที่ 66.6 กินเข้มบ้าง หลุดบ้าง มีความสุขกับมันครับ

เริ่มจะมีกล้ามกะเค้าแล้ววววว


ช่วงหลังๆบางทีงานผมหนัก ผมกินโปรตีนไม่ถึงเลยต้องพึ่งอาหารเสริม แต่ผมทานแค่ whey protein อย่างเดียวครับ ยาลดความอ้วนหรือยาตัวอื่นๆไม่ได้แตะแม่แต่นิดครับ เวย์แบบในรูปมีขายที่เวป http://www.fitwhey.com กำลังมีโปรโมชั่นอยู่ ของดี ของอร่อย ราคาไม่แรงมาก ผมแนะนำเลย


ผมก็เล่นเวตพวกท่า Crunch,Push-up ,Squest,Plank,Tricep kickback,bicep curl,Dead Lif,ฺBench Press พวกท่าเหล่านี้หาได้ตามสื่อต่างๆได้เลยครับ ผมแนำนะ app ตัว Fitjunctions ของพี่ฟ้าใสครับ บอกท่าละเอียดพร้อมทั้งวิธีการเล่นสำหรับมือใหม่ ได้แบบครบๆเลยครับ ผมได้จาก app นี้มาเยอะ


หุ่นเริ่มโอเครก็ถ่ายรูปไว้เป็นกำลังใจให้ตัวเอง 5555


มาถึงตอนนี้หุ่นผมเริ่มจะพอใจแล้วแต่ผมวางแผนเอาไว้ว่าอยากจะเพิ่มน้ำหนักตัวอีกซักนิดนึง น่าจะโอเครกว่านี้


อ้อออออ!!! ผมลืมเรื่องสำคัญเลย สำหรับการลดน้ำหนักนั้น สิ่งสำคัญไม่แพ้การคุมอาหารและการออกกำลังการก็คือ การที่เราใส่วันที่เรากิน Cheat Meal เข้าไปใน 1 สัปดาห์ Cheat Meal คือ 1 มื้อในวันนั้นกินไรก็ได้ตามใจปาก อยากกินไรก็กินเลย แต่ก็อย่าจัดหนักเกินไปนะครับ เราทำ Cheat Meal ก็เพราะว่า เพื่อให้ร่างกายได้มีการกระตุ้นระบบเผาพลาญเพิ่มขึ้นครับ ^^ ตามที่ผมเข้าใจนะ 555 ส่วนตัวผมจัด 1 มื้อทุกวันอาทิตย์ครับ
นี่คือ Cheat Meal ของผม อาหารคลีนต้องกินแต่ของไม่อร่อยหรอ ผมเถียงขาดใจเลย ผมกินหมูกรอบ กินชีส กินเบอร์เก้อ กินทุกอย่าง แต่แค่เลือกกินครับ เช่น เบอร์เก้อในรูป ผมก็เลือกที่จะเอาขนมปังด้านบนออกไป กินแต่เนื้อและหนมปังด้านล่าง แค่นี้ก็มีความสุขแบบไม่อ้วนแล้วครับ


สิ่งที่ผมอยากจะบอกและอยากจะแนะนำก็คือ จากประสบการณ์ของผมนะครับ
อย่าไปฟังคำติหรือข้อเสนอแนะอย่างโน้นอย่างนี้ของคนอื่นครับ ฟังคนที่เค้าให้กำลังใจเราก็พอ คนไหนมาแซะหรือมาบั่นทอนเราเราก็อย่าเก็บไปคิดมากครับ อย่างที่ผมโดนมาก็จะมีพวก ไอ้อ้วนจะลดได้ซักกี่น้ำกัน!! ยิ้มทำไม่ได้หรอก!! เห่อแค่ช่วงนี้แหละ!! ของอร่อยๆมีให้กินไม่กินดันไปกินของจืดๆอะไรพวกนี้ ผมเจอแบบนี้ผมก็ยิ้มให้ครับ ไม่เก็บมาคิดหรอก เสียสุขภาพจิต 5555 อาหารคลีนไม่จำเป็นต้องจืดเสมอไปครับ ผมคนนึงที่กินคลีนแต่ไม่ 100%เพราะทนรสชาติจืดๆไม่ได้ ชีวิตเราทำทั้งทีก็ทำให้มีความสุขด้วยครับ จะให้กินจืดๆทุกๆวันมันก็ไม่ใช่ เหล้า เบียร์ ไม่ดีครับ แต่ถ้าเรามีสังคมก็ดื่มได้บ้าง บางอย่างอย่าไปเครียดกับมันมากครับ หาความสุขหาทางเดินสายกลางของเราให้เจอครับ หาทางที่มันพอดีกับเรา บางคนรับได้กับการสุดโต่งอันนั้นเรื่องดี บางคนไม่ชอบสุดโต่งแต่อยากลด มีสังคมเยอะ ก็ลองบริหารจัดการดีๆดูครับ มันทำได้อยู่แล้ว

***ที่สำคัญอย่าท้อครับ*** อย่ามองว่าการลดน้ำหนัก 1-2สัปดาห์ต้องเห็นผล ผมอยากให้มองยาวๆครับ มองซัก 2-3 เดือน มันอาจจะลงวันละ 1-2 ขีด แต่ถ้าผ่านไป 3 เดือนละ หลายกิโลครับ อย่างผมกินเข้มบ้าง หลุดบ้าง ไม่ได้ออกกำลังบ้าง ก็หยวนๆกันไปครับ ชีวิตเราก็ต้องหาความสุขกันบ้าง หลุดวันนี้พรุ่งเอาเริ่มใหม่ ตราบใดที่พรุ่งนี้เรากลับมาเร็วยังไงก็ไม่สายไปครับ นอกซะจากกว่าหลุดไป 3-4วัน มันจะเริ่มมีอาการขี้เกียจถ้าคุณเอาชนะใจตัวเองได้ก็กลับมาวิ่งกลับมาคุมอาหารต่อ แบบนี้ใช้ชีวิตเป็นครับ ^^***

สุดท้ายนี้ผมไม่รู้หรอกที่เขียนไปนี่มีความรู้มีประโยชน์บ้างมั้ย แต่ผมว่าถ้าเรามีความตั้งใจจะทำอะไรซักอย่างแล้ว ถึงแม้มันจะผิดๆถูกๆ เจอทางขลุขละบ้าง แต่มันก็ถึงเส้นชัยเหมือนคนอื่นๆเค้าครับ อาจจะช้าหน่อยแต่ถึงชัวๆ ถ้าเราโกงด้วยการกินยาลดความอ้วนแบบนั้นอย่าทำเลยครับ ผมลดมา 9 เดือนไม่ใช้ยาลดความอ้วนเลย มีกินเวย์โปรตีนได้ 2 เดือนที่ผ่านมาเองครับ ใจครับ ใจเราเท่านั้น ผมคนนึงเคยยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม กูอ้วน อ้วนแล้วไง กูไม่ลดหรอก ยังไงก็ก็ลดไม่ได้อ้วนขนาดนี้จะลดได้ไง ผมรู้ครับคนคิดแบบนี้เยอะ แต่คุณลองรึยัง จากวันนั้นผมก็ลองผิดๆถูกๆ แต่มันก็ผ่านมาแล้ว 9 เดือนครับ ชีวิตมีความสุขขึ้นเยอะมาก มีความมั่นใจ แต่งตัวได้สนุกขึ้น จนผมถูกคนรอบข้างแซวว่า เห่อร่างกายใหม่ ขี้อวดดดด แต่ผมไม่แคร์หรอก ร่างกายเรา ลดไป 27-28 กิโล ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ จะให้ไม่ได้ถ่ายไม่ทำอะไรพวกนี้ได้ยังเน๊อะ ว่ามั้ยครับ 5555 ผมมาถึงจุดนี้ได้เพราะตัวผมส่วนนึงแต่มีอีกส่วนสำคัญก็คือ ส่วนของกำลังใจครับ ผมมีเพื่อน มีญาติพี่น้อง ที่เข้าใจและค่อยให้กำลังใจ ทำให้ผมมาถึงวันนี้ได้ครับ

สุดท้ายนี้อยากให้ทุกๆคนเริ่มทำครับ อย่ามัวแต่รอเวลา เริ่มทำเลยครับ คุณทำได้อยู่แล้ว ผมอยากแนะนำให้ตามไป follow ig ของ @Djpoom @Fassai @meiji_27anorma พี่ๆเหล่านี้มีบทความและสิ่งที่ให้กำลังใจเรารวมถึงเทคนิคต่างๆ ผมได้จาก 3 คนนี้เยอะมากๆครับ ลองไปตาม follow ig พวกเค้าดูกันนะครับ

ส่วนถ้าใครมีข้อสงสัยอะไรจะสอบถามผมก็ มาได้ที่
IG : pumikan
FB : https://www.facebook.com/pmkpix

อะไรที่ตอบได้ผมจะตอบครับ ^^

เห็นมั้ยครับแค่กะทะไฟฟ้า+ไมโครเวฟ+ความตั้งใจของเรา การลดน้ำหนักก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปเลย อย่าเอาอุปกรณ์ต่างๆ มาเป็นข้ออ้างครับ มีแค่ไหนใช้แค่นั้น ได้ผลเหมือนกัน

### เพิ่มเติมเรื่องเวลาการออกกำลังกายของผมนะครับ ###

เรามาทำลายข้อจำกัดที่ตัวเองตั้งกำแพงเอาไว้ว่า เฮ้ยย! เราไม่มีเวลาว่างที่จะมาออกกำลังกายขนาดนั้นหรอก... กันดีกว่า!!
ปกติผมทำงานเวลา 9.00-18.00 แต่ก่อนก่อนลดน้ำหนักผมก็ตื่น 8 โมงเช้า เลิกงาน 6โมงเย็นกลับมาห้องก็เล่นคอมพิวเตอร์เปิดทีวีดูไปอะไรประมาณนี้ แต่พอมาลดน้ำหนักอันดับแรกคือเปลี่ยน lifestyle ของตัวเองครับ
ผมว่าการลดน้ำหนักไม่ยากแต่ก็ไม่ง่าย ไอ้ทีว่ายากคือการคุมตัวเอง เอาชนะใจตัวเองและการมีวินัยมากกว่า วิธีเปลี่ยน lifestyle ของผมก็คือ จากตื่นนอน 8 โมง ผมเปลี่ยนมาเป็น 7 โมงเช้าไวกว่าปกติ 1 ชั่วโมงเผื่อที่จะเตรียมอาหารเช้าและอาหารเที่ยงไปทานที่ออฟฟิศ

ผมเลิกงานเย็น ดังนั้นผมเตรียมชุดกีฬาสำหรับวิ่งมาออฟฟิศแทบทุกวันครับ (เอารองเท้าวิ่งมาไว้ที่โต๊ะทำงานเลยแหละ) เพื่อที่ว่า ปกติเลิกงาน 6 โมงเย็นเวลากลับห้องถนนเส้นที่ผมใช้กลับรถมันติดครับ บางที่ออกจากออฟฟิศ 18.30 น. ถึงห้องเกือบๆ 19.30-20.00 น. ผมเลือกเลยที่จะวิ่งช่วง 18.00 -18.45 โดยประมาณ เพื่อที่ว่าพอวิ่งเสร็จปุ๊ป พักร่างกายให้หายเหนื่อย ก็ขึ้นรถเมล์กลับบ้านช่วงเวลา 19.00 เป็นต้นไป

รถมันไม่ค่อยติดแล้วครับ ก็เหมือนเป็นการวิ่งฆ่าเวลานั้นเอง แทนที่จะไปนั่งเสียเวลาเปล่าๆบนถนนที่รถติด กลับมาถึงห้อง19.30-20.00 น. ผมก็มาเล่นเวทที่ห้องต่อครับ ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 21.00 น. นี่คือเวลาทานข้าวเย็นของผม อาจจะงงว่าทำไมทานดึก แต่ผมทานแบบนี้เวลานี้ทุกวันครับ

การลดน้ำหนักของผมไม่มีการอดอาหาร ทานอิ่มทุกมื้อ ดึกแค่ไหนก็ทาน ถ้าแคลลอรี่ในวันนั้นๆผมไม่เกิน เห็นมั้ยครับว่าผมพยายามไม่สร้างข้อจำกัดให้กับตัวเอง ยอมตื่นเช้าหน่อย กลับยอมเสียเวลาพีกผ่อนช่วงเวลา 20.00-21.00 น.ของตัวเอง แทนที่จะนั่งดูทีวีและเล่นคอม ผมก็เปลี่ยนมาเล่นเวทไปด้วยดูทีวีไปด้วย วิว-วิน ทั้งความรู้สึกและร่างกายของเราครับ ;)

ผมทำงานในบริษัท Organize ดังนั้นบางวันผมจะทำงานเช้ามากกก จนถึง ดึกมากกกถ้าวันเหล่านั้นผมเหนื่อยผมก็พักครับ ไม่ได้เครียดอะไรที่ไม่ได้ออกกำลังกายเพราะเรารู้อยู่แล้วว่า พรุ่งนี้เราก็สามารถมาออกกำลังกายใหม่ได้ ตราบใดที่พรุ่งนี้คุณยังสู้ ยังไงคุณก็ลดน้ำหนักได้ครับ เชื่อผม

ขอขบคุณข้อมูลจาก : Pantip.com, facebook.com/pmkpix 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook