เคล็ดลับลดน้ำหนัก 24 กิโลกรัมใน 1 ปีด้วยพลังจากผัก 3 ชนิด

เคล็ดลับลดน้ำหนัก 24 กิโลกรัมใน 1 ปีด้วยพลังจากผัก 3 ชนิด

เคล็ดลับลดน้ำหนัก 24 กิโลกรัมใน 1 ปีด้วยพลังจากผัก 3 ชนิด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

พลังงานความร้อนที่เกิดขึ้นจากกระบวนการเผาผลาญพลังงานภายในเซลล์เพื่อใช้ในการย่อยและการดูดซึมอาหารที่รับประทานเข้าไปหรือ Diet Induced Thermogenesis เป็นทางเลือกการลดน้ำหนักสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักแต่ไม่ชอบออกกำลังกาย โดยอาหารหลายชนิดมีผลในการเพิ่มกระบวนการเผาผลาญพลังงานในร่างกายได้ดี มีผู้ที่เคยรับประทานควบคู่ไปกับการไดเอทแล้วลดได้ถึง 24 กิโลกรัมภายใน 1 ปีมาแล้ว! มารู้จักผักที่ผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่นแนะนำว่าหากรับประทานทุกวันจะมีผลช่วยในการลดน้ำหนักได้ดีกัน

บรอกโคลี

บรอกโคลีเป็นผักที่มีปริมาณโปรตีนสูง มีปริมาณน้ำตาลเกือบเป็นศูนย์ และเป็นผักที่มีผลในการเพิ่มกระบวนการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย อีกทั้งบรอกโคลีอุดมไปด้วยวิตามินซี ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการไปกดการหลั่งของฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ร่างกายของคนที่กำลังลดน้ำหนักหลั่งออกมามากเมื่อออกกำลังกายและมีความเครียดจากการควบคุมอาหาร เมื่อร่างกายหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอลออกมาสูง ก็จะชักนำให้เกิดการสลายของกล้ามเนื้อในร่างกายส่งผลให้อัตราการเผาผลาญพลังงานของร่างกายต่ำลงเป็นเหตุให้อ้วนได้ง่าย นอกจากนี้ บรอกโคลียังอุดมไปด้วยเส้นใยที่ไม่ละลายน้ำ ซึ่งจะดูดซึมน้ำและพองตัวส่งผลให้รู้สึกอิ่มและลดปริมาณการรับประทานอาหารได้ดี

ผักปวยเล้ง

หากไม่รวมเส้นใยอาหาร ผักปวยเล้งเป็นผักที่มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตต่ำมาก แต่อุดมไปด้วยธาตุเหล็กซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญสำหรับการขนส่งออกซิเจนไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกายผ่านระบบการไหลเวียนเลือด หากร่างกายขาดธาตุเหล็กจะทำให้ปริมาณออกซิเจนเพื่อไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายลดลงส่งผลให้ร่างกายเปลี่ยนคาร์โบไฮเดรตไปเป็นพลังงานได้น้อยลงและทำให้ไขมันสะสมในร่างกายได้ง่ายขึ้น

กระเจี๊ยบเขียว

กระเจี๊ยบเขียวเป็นผักที่อุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร เช่น เพคตินที่ไม่สามารถย่อยได้ในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็ก แต่จะถูกส่งตรงไปยังลำไส้ใหญ่โดยตรงซึ่งจะกลายเป็นอาหารในการเพิ่มจำนวนแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้ ส่งผลให้สิ่งแวดล้อมในลำไส้ดีซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้สามารถลดน้ำหนักได้ง่าย นอกจากนี้ เส้นใยอาหารในกระเจี๊ยบเขียวยังช่วยกดการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำตาลในเลือดหลังมื้ออาหารและระดับไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือดซึ่งส่งผลในการป้องกันโรคอ้วนได้ดี

วิธีการนำมาปรุงอาหาร

การปรุงอาหารที่ไม่ถูกวิธีจะทำให้ผักสูญเสียวิตามินที่ละลายน้ำได้เช่น วิตามินบีและซี ซึ่งมักจะอยู่ที่ส่วนของพื้นผิวผัก การนำผักมาปรุงอาหารอย่างถูกวิธีเพื่อการลดน้ำหนักคือ การนึ่งในเวลาที่สั้นแทนการต้มที่ทำให้วิตามินซีจากผักละลายไปสู่น้ำได้ง่าย หรือปรุงเป็นเมนูอาหารที่สามารถรับประทานน้ำซุปได้

ผักทุกอย่างมีประโยชน์ต่อร่างกาย หากรับประทานในปริมาณที่เพียงพอแล้วจะทำให้สุขภาพดีและระบบขับถ่ายทำงานได้ดี หากต้องการควบคุมน้ำหนักแต่ไม่ชอบออกกำลังกายก็ลองใช้วิธีการรับประทานผักดังกล่าวดู

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook