ศาสตร์ของเรขาคณิตและเค้าโครงเฉียบคมใน Dolce & Gabbana Men's Fall/Winter 2022

ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของโลกแห่งอนาคต โดยกล่าวถึงโลกปัจจุบันและเทคโนโลยีในยุค Metaverse

นับเป็นอีกโชว์ที่โดดเด่นและสร้างความตื่นตาตื่นใจให้ Men Fashion Week ฤดูกาลนี้เลยก็ว่าได้ สำหรับแบรนด์ Dolce & Gabbana ที่ในคอลเลกชั่น Fall/Winter 2022 ได้ศิลปินแร็พเปอร์ชื่อดังแห่งยุคผู้ไม่เคยตามกระแสโลกอย่าง “Machine Gun Kelly” มาร่วมรังสรรค์โชว์สุดสมบูรณ์แบบและสนุกสนานในทุกมิติให้ได้รับชมกันไปแล้วเมื่อค่ำคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา เรียกว่านอกเหนือจากการได้รับชมคอลเลกชั่นล่าสุดแล้วนั้น ยังให้ความรู้สึกเสมือนได้รับมินิคอนเสิร์ตแห่งโลกอนาคตไปด้วยเลยล่ะ

 
ในส่วนของคอลเลกชั่นสุดล้ำครั้งนี้คู่หูครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ประจำแบรนด์อย่าง Domenico Dolce และ Stefano Gabbana เลือกที่จะเน้นเรื่องสัดส่วนเค้าโครงเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการผสมผสานศาสตร์ของเรขาคณิต หรือการใช้พลาสติกและภาพพิมพ์ลายด้วยมือ ซึ่งมีเป้าหมายหลักในการถ่ายทอดเรื่องราวของโลกแห่งอนาคต โดยกล่าวถึงโลกปัจจุบัน เทคโนโลยี “The Metaverse” หรือโลกเสมือนจริง และโลกแห่งอนาคต เราจึงได้เห็นการผสานรวมกันระหว่างผลงานศิลปะและเทคโนโลยีสุดล้ำที่อยู่ร่วมกันกับผู้คนไม่ว่าจะก้าวสู่ยุคไหนก็ตามทีผ่านเครื่องแต่งกายและแอคเซสเซอรี่ในคอลเลกชั่นนี้นั่นเอง 

นอกจากนี้แล้วทั้ง Stefano และ Domenico ยังอยากจะสะท้อนถึงความปรารถนาของคนรุ่นใหม่ที่ไร้ขีดกำจัดทางเพศสภาพ และเลือกเสื้อผ้าเพียงเพราะพวกเค้าต้องการแสดงออกถึงอิสระในความเป็นตัวของตัวเองอย่างชัดเจนและตรงไปตรงมา ทำให้เราได้เห็นภาพพิมพ์แบ่งออกเป็นโลโก้ขาวดำและกราฟฟิตี้ถูกนำเสนอเป็นสองประเภท แบบแรกคือการพิมพ์ลวดลายกราฟฟิตี้หลากหลายสีลงบนผ้า และแบบที่สองคืองานพิมพ์ที่ถูกบรรจงวาดด้วยมือของศิลปินที่ออกแบบเสื้อผ้าแต่ละชิ้นในงานแสดง 

ในส่วนของเครื่องประดับ และรองเท้านั้น คอลเลกชั่นนี้นำเสนอบูทสำหรับฤดูหนาว ที่ถูกออกแบบด้วยวัตถุดิบที่ทำจากขนสัตว์เทียมหรือผ้าไนลอนแบบควิลท์ รองเท้าสไตล์ใหม่ เช่น "Toy" ที่ทำจากยาง ผ้าซาติน และ ลวดลายกราฟฟิตี้ที่ถูกประยุกต์ด้วยเทคโนโลยีที่เบาบางล้ำสมัยและสะดวกสบายต่อการสวมใส่ รวมไปถึงแว่นตาและหน้ากากที่เป็นจุดเด่นของการแสดงได้รับแรงบันดาลใจจากปรากฏการณ์เมื่อโลก Metaverse บรรจบกับแดนหิมาลัย ผลลัพธ์คือศิลปะล้ำสมัยแห่งอนาคตที่เชื่อมโยงถึงโลกในมิติเทคโนโลยีอย่างที่เราได้เห็นกันนี้

ดังนั้นในโชว์ครั้งนี้ของ Dolce & Gabbana จึงเปรียบเสมือนการผสมผสานโลกสองขั้วที่แตกต่างกันหากอยู่ร่วมใต้จักรวาลเดียวกัน และการเสนอความร่วมสมัยในฉบับของโลกแห่งอนาคต ความงามของศิลปะและการดำรงอยู่ของผู้คน ที่ถูกถ่ายทอดผ่านคอลเลกชั่นล่าสุดนี้ได้อย่างสนุกสนานและดึงดูดสายตาผู้ชมไปได้ไม่น้อย ว่าแล้วตามมาชมทุกลุคส่งตรงจากโชว์ไปพร้อมๆ กันเลยดีกว่า