10 ผลข้างเคียงเมื่อลดน้ำหนักด้วยวิธี Ketogenic Diet

10 ผลข้างเคียงเมื่อลดน้ำหนักด้วยวิธี Ketogenic Diet

10 ผลข้างเคียงเมื่อลดน้ำหนักด้วยวิธี Ketogenic Diet
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สำหรับหนุ่มๆ ที่เลือกวิธีลดน้ำหนักแบบ Ketogenic Diet ย่อมรู้ดีว่าการลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้ร่างกายจำเป็นต้องอดอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต ซึ่งสารอาหารชนิดนี้ถือเป็นสารอาหารหลักที่ให้พลังงานแก่ร่างกายในระยะเวลาหนึ่งเลยทีเดียว ดังนั้นเมื่อร่างกายขาดสารอาหารชนิดนี้ไป ย่อมทำให้เกิดผลข้างเคียงตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นเราจึงนำ 10 ผลข้างเคียงที่ชาวคีโตควรรู้เมื่อตัดสินใจลดน้ำหนักแบบ Ketogenic Diet มาแชร์ให้ได้ทราบกัน

1.ปวดหัว

เมื่อใดก็ตามที่ร่างกายเข้าสู่สภาวะคีโตซีส สิ่งที่จะตามมาก็คือ ร่างกายเริ่มมีอาการปวดหัวเล็กน้อย รวมทั้งอาจมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนจะเป็นไข้ นั่นเพราะร่างกายขาดแร่ธาตุบางชนิดไปนั่นเอง

2.อ่อนเพลียและมึนงง

โดยปกติแล้วร่างกายควรได้รับสารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตมากกว่า 60 กรัมต่อวัน แต่เมื่อใดที่ร่างกายได้รับสารอาหารชนิดนี้ต่ำกว่านั้น ก็ย่อมส่งผลให้เกิดอาการอ่อนเพลียและมึนงงตามมา

3.ความดันโลหิตต่ำ

แน่นอนว่ามีข้อมูลเกี่ยวกับการกินคีโตที่ได้ระบุว่าจะช่วยให้ความดันโลหิตอยู่ในระดับปกติ แต่เมื่อใดก็ตามที่ร่างกายขาดสารอาหารอย่างคาร์โบไฮเดรตติดต่อกันหลายวัน หรือรวมเป็นระยะเวลาที่นานเกินไป ก็ย่อมทำให้ร่างกายมีความดันโลหิตต่ำ ซึ่งถือเป็นภาวะที่อันตรายต่อร่างกายอย่างมาก เพราะจะส่งผลให้เป็นลมหรือหมดสติได้

4.ปัสสาวะบ่อย

อาการที่เกิดขึ้นในวันแรกที่เริ่มทำคีโตก็คือ ปวดปัสสาวะบ่อย ซึ่งนั่นเกิดจากการที่ร่างกายเกิดการเผาผลาญไกลโคเจนหรือกลูโคสที่มีการสะสมอยู่บริเวณตับและกล้ามเนื้อบ่อยขึ้น และหลังจากนั้นไตก็จะทำการขับออกมาในรูปของปัสสาวะ จึงทำให้ปวดปัสสาวะบ่อยกว่าปกตินั่นเอง

5.ระบบขับถ่ายแปรปรวน

รูปแบบการลดน้ำหนักแบบคีโตนั้น จะส่งผลทำให้ระบบขับถ่ายแปรปรวน ดังนั้นหนุ่มๆ อาจมีอาการท้องผูกจากการที่ได้รับไฟเบอร์ที่ไม่เพียงพอ และบางครั้งอาจเกิดอาการท้องเสียจากความผิดปกติของการดูดซึมสารอาหารในลำไส้อีกด้วย

6.เป็นตะคริวง่าย

ถึงแม้ว่าการทำคีโตจะเน้นให้กินอาหารประเภทโปรตีน แต่ก็มีส่วนทำให้ร่างกายเป็นตะคริวได้เช่นกัน นั่นเพราะร่างกายสูญเสียแร่ธาตุที่จำเป็นบางชนิด โดยเฉพาะแมกนีเซียม จึงทำให้กล้ามเนื้อมีการหดหรือเกร็งตัวได้ง่ายกว่าปกติ

7.นอนไม่ค่อยหลับ

อาการนอนไม่ค่อยหลับในช่วงกลางคืนจากการทำคีโต  เกิดจากการที่ร่างกายมีอินซูลินและสารเซโรโทนินในระดับต่ำ จึงทำให้เกิดอาการนอนหลับยาก หรืออาจจะต้องใช้เวลานานมากกว่าจะรู้สึกง่วง

8.เสี่ยงเกิดภาวะนิ่วในไต

การลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้ ส่งผลให้มีการสะสมตัวของก้อนแคลเซียมในปัสสาวะในระดับสูง จึงทำให้ไตต้องทำงานหนักมากขึ้นเพื่อที่จะขับออกมาในรูปของของเสียนั่นเอง และนั่นจึงเสี่ยงต่อการทำให้เกิดภาวะนิ่วในไตได้

9.อาการอยากน้ำตาลเพิ่มขึ้น

ในช่วงของ 2-10 วันของการทำคีโต ร่างกายจะเริ่มมีความต้องการน้ำตาลเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นถ้าสาวๆ เผลอไปกินของหวานเพื่อลดความอยาก ก็จะยิ่งทำให้ร่างกายมีความต้องการของหวานมากขึ้นไปอีกเรื่อยๆ

10.เกิดภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ T3

ร่างกายของคนเราจะมีการหลั่งฮอร์โมนไทรอยด์ T3 ออกมาเพื่อช่วยในส่วนของกระบวนการเผาผลาญพลังงานที่ต้องอาศัยคาร์โบไฮเดรตกับโปรตีน แต่เมื่อร่างกายขาดคาร์โบไฮเดรตจากการทำคีโตเป็นระยะเวลาหนึ่ง ก็ย่อมส่งผลให้ฮอร์โมนไทรอยด์ T3 ถูกกระตุ้นให้สร้างได้น้อยลง ทำให้ร่างกายมีการแสดงออกผิดปกติต่างๆ ตามมา

การลดน้ำหนักด้วยวิธีใดๆ ย่อมมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นกับร่างกายได้เสมอ สิ่งสำคัญคือต้องศึกษาเกี่ยวกับวิธีการลดน้ำหนักแต่ละวิธีให้ละเอียดรอบด้าน เพื่อมองหาวิธีที่เหมาะสำหรับร่างกายของตัวเองมากที่สุด ทั้งนี้เพื่อให้ร่างกายได้รับผลข้างเคียงน้อยที่สุดนั่นเอง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook