FAMOUS : แบรนด์ขวัญใจชาวพังค์สเก็ตที่กลั่นมาจาก ‘ทราวิส เบเกอร์' มือกลองระดับโลก
คำที่ถูกค้นบ่อย
    Sanook//s.isanook.com/sr/0/images/logo-new-sanook.png60060
    //s.isanook.com/me/0/ud/13/69569/famous.jpgFAMOUS : แบรนด์ขวัญใจชาวพังค์สเก็ตที่กลั่นมาจาก ‘ทราวิส เบเกอร์' มือกลองระดับโลก

    FAMOUS : แบรนด์ขวัญใจชาวพังค์สเก็ตที่กลั่นมาจาก ‘ทราวิส เบเกอร์' มือกลองระดับโลก

    2020-10-21T14:44:00+07:00
    แชร์เรื่องนี้

    แบรนด์เสื้อผ้าหรืออุปกรณ์สำหรับสายสเก็ตฯ หรือ เอ็กซ์สตรีม นั้นได้รับความนิยมสุดๆในวัยรุ่นทั่วโลกโดยเฉพาะในช่วงยุคปลาย 90S ต่อ 2000 มีแบรนด์แนวนี้่เกิดขึ้นมากมาย โดยแต่ละเเบรนด์ใช้คาแร็คเตอร์ของตัวเองชิงตลาดที่กำลังบูมถึงขีดสุดเช่นกัน หนึ่งในนั้นคือ FAMOUS

    แบรนด์ที่มีโลโก้เป็นตัว F ที่มีต้นกำเนิดจากมือกลองสายป๊อปพังค์แถวหน้าของโลก กระโจนเข้าสู่ตลาดกระแสหลักที่วางขายมานานกว่า 20 ปีได้อย่างไร ? ติดตามได้ที่นี่

    กลั่นจากชีวิตก่อนจะเป็นคนดัง (FAMOUS)
    อย่างที่ได้กล่าวเอาไว้ข้างต้น Famous เป็นแบรนด์ที่ผลิตออกมาโดยมีกลุ่มวัยรุ่นที่เป็นเป้าหมาย โดยพวกเขาเลือกเส้นทางสายสเก็ตบอร์ด และ เอ็กซ์สตรีม มาตั้งแต่แรก เหตุผลไม่ใช่เพราะยุคนั้นเด็กสเก็ตกำลังมีอิทธิพล แต่การแต่งตัวและใช้ชีวิตแบบพังค์ๆ ถือว่าเป็นตัวตนของทราวิส เบเกอร์ เจ้าของแบรนด์นี้อีกด้วย 


    Photo : waaf.radio.com

    ทราวิส ถูกรู้จักกันในนามของมือกลองวง Blink182 ผู้นำแถวหน้าของวงการเพลงแนวป๊อป-พังค์ ก่อนที่วงดนตรีวงนี้จะโด่งดังมีชื่อเสียงขึ้นและเป็นไอคอนของวัยรุ่นแทบจะทั้งโลกได้ต้องบอกว่าพวกเขามีช่วงชีวิตวัยรุ่นที่ "สุดจริงๆ" โดยเฉพาะในรายของ ทราวิส ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Famous นั้นถือว่าโชคดีมากที่ยังมีชีวิตอยู่มาจนถึงทุกวันนี้ หากคุณได้ฟังเรื่องราวของเขา 

    อบายมุขทุกอย่างเท่าที่คุณจะนึกได้บนโลกนี้ ยาเสพติดตั้งแต่ชั้นล่างจนทั้งถึงชั้นสูงไม่มีตัวยาชนิดไหนที่เขาไม่เคยลอง อย่างไรก็ตามเข้าก้าวผ่านชีวิตวัยรุ่น และกลายเป็นเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้าที่เคยทำยอดขายได้ถึง 100 ล้านเหรียญสหรัฐได้อย่างน่าชื่นชม  

    หลายครั้งที่มีคนถามเขาว่าชีวิตที่ผ่านมาที่ว่ากันว่าเลวร้ายแบบที่จินตนาการไม่ถึง เขาเคยเสียใจจะกับอะไรบ้าง? ... คำตอบจากปากเขาคือ "ผมไม่เคยเสียใจ เพราะมีแต่บทเรียนให้เรียนรู้เท่านั้น" 

    ทราวิส นั้นมีบ้านเกิดอยู่ที่ ฟอนตาน่า แคลิฟอร์เนีย แท้จริงแล้วครอบครัวเขาไม่ได้ขาดความอบอุ่นอะไร พ่อเป็นช่างซ่อมบำรุงเครื่องจักร ส่วนแม่ของเขารับจ็อบเป็นพี่เลี้ยงเด็ก เขาได้รับกลองชุดเป็นของขวัญวันเกิดตอนอายุ 5 ขวบ และจากนั้นเขาก็หวดมันเรื่อยมา

    พออายุได้ 12 ปี เขาประสบพบเจอกับเหตุการณ์ที่สะเทือนใจอย่างหนักเมื่อแม่ของเขาจากไปด้วยโรคมะเร็ง ซึ่งตัวของ ทราวิส สนิทกับแม่มาก และนั่นทำให้ในความรู้สึกของเด็กคนหนึ่ง มันเป็นเรื่องยากที่จะรับมือ จนทำให้เขามีช่วงชีวิตวัยรุ่นที่อยู่บนความคาบเกี่ยวบนความเสี่ยง เนื่องจากเขาเป็นสมาชิกแก๊ง ที่เกี่ยวพันกับยาเสพติด และติดกัญชาอย่างหนักหน่วง ซึ่งในช่วงเวลานั้นเขากลายเป็นคนที่โดนเรียกว่า "ไอ้ขยะ" เพราะไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน 

    อย่างไรก็ตามจุดเปลี่ยนในชีวิตเกิดขึ้น หลังจากที่เขาอยู่ในเหตุการณ์ที่เพื่อนของเขาโดนคู่อริบุกเอาปืนมาจ่อยิงที่หัวถึงบ้าน เขาเห็นเหตุการณ์นั้นแบบตาต่อตาและจดจำมันได้อย่างดี เขาเชื่อว่าถ้าเขายังเดินเส้นทางนี้ต่อไปศพต่อไปอาจจะเป็นคิวของตัวเขาเองก็เป็นได้ 

    หลังจากวันนี้ ทราวิส กลับมาหวดกลองอย่างจริงจังอีกครั้ง และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นสู่การเป็น 1 ในยอดมือกลองระดับโลก โดยเริ่มจากวง Feeble ก่อนที่จะมาจบลงด้วยการเข้าออดิชั่นเป็นสมาชิกของวง Blink182 ในปี 1998 และมีชื่อเสียงนับตั้งแต่นั้น

    ไม่เสียใจแต่ทุกอย่างคือบทเรียน 
    "ไม่เสียใจเพราะทุกอย่างคือบทเรียน" นั่นคือสิ่งที่เขาพูดมาเสมอ และถือเป็นคติพจน์ ที่ทำให้เขาไปได้ไกลยิ่งกว่าการเป็นแค่มือกลอง


    Photo : seck | liveandloudrock.wordpress.com

    ทราวิส เป็นคนที่มีคาแร็คเตอร์โดดเด่นตรงที่มีรอยสักเต็มตัวจนแทบไม่เหลือที่ว่าง เขาให้เหตุผลว่าที่เขาสักทั่วร่างเป็นเพราะว่ามันคือการเดิมพันของตัวเอง เพราะ ณ ช่วงเวลานั้นภาพลักษณ์ของคนมีรอยสักเต็มตัวนั้นดูไม่ดี ยากที่จะทำงานประจำที่มั่นคงได้ เพราะมักจะโดนคัดทิ้งเลือกเอาคนที่อยู่ในกรอบของสังคมมากกว่า ดังนั้นการสักของเขาหมายความว่า เขาจะเดิมพันด้วยทุกสิ่งที่มีไปกับการเล่นดนตรีและมีชื่อเสียงโด่ง เพราะรอยสักของเขาทำให้เขาไม่สามารถกลับไปทำงานประจำได้ เหลือเพียงทางเดียวเท่านั้น คือ การสู้จนหยดสุดท้ายนั่นเอง

    การเข้ามาเป็นสมาชิกของ Blink182 ของ ทราวิส คือการเติมเต็มให้กับวงนี้อย่างลงตัว อัลบั้ม Enema of the State ในปี 1999 กลายเป็นชุดที่ทำให้เพลงของวงเข้าสู่กระแสเมนสตรีม มีคนฟังมากขึ้นและวงกว้างขึ้นเรื่อย ๆ เรียกได้ว่าอัลบั้มดังกล่าวถือเป็นหนึ่งปรากฎการณ์ของดนตรีป๊อปพังค์ และเป็นผู้เริ่มยุคสมัยของดนตรีเเนวนี้เลยก็ว่าได้ 

    หลังจากอัลบั้ม Enema of the State ดังเป็นพลุแตก ทราวิส ก็กลายเป็นคนที่โดดเด่นขึ้นมาในวงการดนตรี เขาเริ่มมีเงินเก็บและต่อยอดด้วยการเปิดแบรนด์เสื้อผ้าที่ชื่อว่า Famous Stars and Straps (FSAS) หรือชื่อย่อว่า Famous ในช่วงปลายปี 1999


    Photo : favim.com

    เรียกได้กระแสของวงและเพลงกำลังติดลมบน นอกจากนี้ความโด่งดังส่วนตัวของเขาก็สูงขึ้น มันเป็นช่วงเวลาที่เหมาะเจาะกับการสร้าง Famous ให้เข้าไปเกาะอยู่ในหัวใจวัยรุ่นยุคนั้นทันที เสื้อผ้าของ Famous นั้นเป็นเสื้อผ้าแนวพังค์สเก็ต ซึ่งแน่นอนว่าทั้งพังค์และสเก็ต ล้วนเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลกับชีวิตของ ทราวิส มานานนมตั้งแต่ตอนที่เขาติดยาเสพติด จนกระทั่งมีชื่อเสียงขึ้นมา  

    ช่วงเวลาเปิดตัว Famous นั้นเป็นช่วงที่ Blink182 เปิดกระแสยุคพังค์ขึ้นมา และนั่นทำให้เสื้อผ้าแนวพังค์สเก็ตแบบที่เขาทำขึ้นมานั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ไม่ใช่แค่วัยรุ่นหรือแฟนเพลงเท่านั้น เหล่าอินฟลูเอนเซอร์และคนดังจากทั้งวงการสเก็ตและวงการเพลงต่างก็เลือกหยิบจับเสื้อผ้าของ Famous ขึ้นมาสวมใส่และปรากฎผ่านสื่อมากมายเช่น คิม คาดาเชียน, Eminem, เฟอร์กี้ แห่งวง เดอะ แบล็ค อาย พีส์ เป็นต้น...ความนิยมที่ได้มาไม่ใช่เรื่องฟลุก ทราวิส ผ่านการใช้ชีวิตมาครบทุกรูปแบบ และเขารู้ว่ายุคของพังค์จะต้อง "มาแน่" 


    Photo : hauteliving.com

    "ผมโตมากับการปั่นจักรยาน BMX เล่นสเก็ตบอร์ด และโต้คลื่น ผมลองทุกอย่างที่คนนิยมในยุคของผม เดิมทีผมไม่ได้หวังว่าแบรนด์นี้จะเติบโตและเป็นกระเป๋าเงินหลักของผมหรอก ผมแค่อยากจะทำดูเพราะมั่นเป็นสิ่งผมรักจริงๆ ผมไม่เคยมองเรื่องการก้าวกระโดดอะไรแบบนั้น ผมแค่รู้สึกสนุกกับตัวเองที่ได้ทำในสิ่งที่ต้องการจริงๆเท่านั้นเอง" ทราวิส กล่าว 

    จากเสื้อผ้าที่ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า Famous เจาะตลาดของพวกเขาด้วยการปล่อยไอเท็มเเบบชุดใหญ่ไม่ว่าจะเป็น รองเท้า, หมวก, แจ็คเก็ต และเครื่องประดับสายพังค์ ซึ่งไม่ว่าจะทำออกมากี่ชิ้นๆ ยอดขายก็จัดอยู่ในขั้นที่ประสบความสำเร็จ และทำเงินให้กับเขาได้มากกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว

    ตัวตนจะอยู่กับคุณไปตลอดชีวิต
    ทุกวันนี้แบรนด์ Famous ยังคงอยู่ในตลาดเมนสตรีมสำหรับสินค้าแฟชั่นสำหรับวัยรุ่นเหมือนเช่นเคย มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่พวกเขาจะรักษายอดขายและพัฒนาสินค้าออกมาจนแบรนด์คงอยู่ได้นานกว่า 20 ปี 


    Photo : feelingthis.co.uk

    "หากให้มองย้อนกลับไปผมบอกตรง ๆ ว่าไม่เคยคิดว่าแบรนด์นี้จะใหญ่โตเหมือนทุกวันนี้" ทราวิส ว่าไว้  

    ทุกวันนี้เขากลายเป็นศิลปินรุ่นใหญ่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้ดนตรีแนวป๊อปพังค์จะซบเซาลงไปบ้าง ซึ่งแน่นอนว่าส่งผลต่อยอดขายสินค้าแนวนี้ แต่แบรนด์ Famous ยังคงเชื่อมั่นในแนวทางการเป็นพังค์สเก็ตของตัวเองไม่เปลี่ยนแปลง ดังนั้นการจะอยู่ให้ได้ในวันที่กระแสหมดนั้นจำเป็นต้องมีความยืดหยุ่นผลิตสินค้าตามความนิยมของยุคบ้าง เช่น หมวกแนวฮิปฮอป เป็นต้น ซึ่งตัว Famous เองก็ทำการคอลแลบฯ ร่วมกับศิลปินและดีไซเนอร์ชื่อดังอีกหลายคนเพื่อขยายตลาดของพวกเขาให้ใหญ่ขึ้นและเข้ากับกระแสทำให้เสื้อผ้าและสินค้าของ Famous ไม่ตกยุคไปพร้อมๆกับดนตรีพังค์  

    ขณะที่ตัวของ ทราวิส เองก็ถูกจดจำในฐานะพังค์ตัวพ่อตลอดกาล คาแร็คเตอร์ที่เป็นเหมือนตัวแทนวัฒนธรรมและสไตล์ชาวพังค์ และ เด็กสเก็ต ทำให้เมื่อเอาอิทธิพลของเขามาบวกเข้ากับแบรนด์ของตัวเองที่หาทางผลิตสิ่งใหม่ ๆ ออกมาตลอดนั่น คือเหตุผลที่ Famous ยังคงขายได้เหมือนกับ 20 ปีก่อน 


    Photo : www.stylebistro.com

    "มันวิเศษมาก ที่ตัวผมเองถูกจดจำเเบบนั้น ย้อนกลับไปสมัยวัยรุ่นผมก็แค่คนที่ชอบฟังเพลงและแต่งตัวตามแนวที่ตัวเองชอบ ตอนนี้แม้โลกจะเปลี่ยนไปเข้าสู่ยุคของคอมพิวเตอร์เต็มรูปแบบแต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนคือแรงบันดาลใจจากเพลง ที่มีอิทธิพลต่อเสื้อผ้าที่สวมใส่ ผมรักในสิ่งที่ตัวเองเป็นเสมอ มันทำให้ผมเหมือนกับยังเป็นวัยรุ่นอยู่ตลอดเวลา และมันคือสิ่งที่ผมต้องการ" ทราวิส กล่าวถึงตัวตนที่ทำให้แบรนด์ของเขาเเข็งแกร่ง 

    เทรนด์และการแต่งตัวของวัยรุ่นนั้นผ่านมาและผ่านไปอย่างรวดเร็ว สิ่งที่ ทราวิส เข้าใจ คือ สำหรับแบรนด์ ๆ หนึ่ง การจะอยู่ในตลาดระยะยาวได้ คือ ต้องยึดมั่นในตัวตนของตัวเองให้เหมือนกับวันแรก และพร้อมเสมอที่จะเปิดรับ และปรับเอาสิ่งใหม่ ๆ มาใช้ให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลา

    "คุณต้องจำไว้เลยว่าอย่าได้ทะนงตัว ต้องติดดินเข้าไว้ จดจำทุกเรื่องราวในฐานะประสบการณ์ที่มีค่า และสำคัญที่สุดคือการรักในสิ่งที่ตัวของคุณทำ ทุกวันนี้ผมยังรักการออกแบบเสื้อผ้า, ผมยังรักการฟังเพลง และผมคิดว่าทุกคนที่เกี่ยวข้องกับบริษัทของผมก็เป็นเช่นนั้น พวกเขารักที่จะแสดงตัวตนผ่านสินค้าให้ทุกคนได้รู้จัก" 


    Photo : www.worthpoint.com

    ไม่ว่าจะกับชีวิตหรือธุรกิจ ทุกสิ่งที่เลวร้ายที่ผ่านเข้ามาสามารถเป็นบทเรียนได้เสมอ อยู่ที่ว่าเราจะหยิบจับมันเอามาใช้ประโยชน์ได้หรือไม่...ทราวิส เบเกอร์ และ Famous คือตัวเเทนของคนและแบรนด์ที่เชื่อมั่นในตัวตนของตัวเอง และมองหาโอกาสพัฒนาอยู่เสมอ 

    โลกหมุนเร็วขึ้นทุกวัน เมื่อหยุดเดินก็แปลว่าล้าหลังแบบไม่ทันรู้ตัว จงตื่นตัวเข้าไว้และพยายามทำทุกสิ่งด้วยความรัก เพราะคุณจะอยู่กับไปได้ตลอดทั้งชีวิตเหมือนกับ ทราวิส เบเกอร์ ที่ออกจากขุมนรกของยาเสพติดสู่การเป็นพังค์สตาร์และผู้มีอิทธิพลในวงการดนตรี และแน่นอนในฐานะผู้ก่อตั้ง Famous แบรนด์อมตะของเด็กสเก็ตแบรนด์นี้อีกด้วย 

    หากใครสนใจอยากจะลองสวมใส่สินค้าของแบรนด์อมตะอย่าง Famous สามารถเข้าชมสินค้าและสั่งซื้อได้ที่ https://famoussas.com นอกจากนี้ยังสามารถสั่งซื้อได้จาก Shopee และ Lazada เช่นกัน

    แหล่งอ้างอิง 

    https://www.nickiswift.com/51623/ever-happened-travis-barker/ 
    https://www.salon.com/2015/12/05/i_did_so_many_bad_things_with_my_genitals_blink_182s_travis_barker_opens_up_on_sex_drugs_plane_crashes_and_christianity/ 
     https://www.vice.com/da/article/6vgpk9/travis-barker-interview-2015 
    https://famoussas.com/ 
    https://www.ballerstatus.com/2009/12/15/travis-barker-reflects-on-famous-stars-straps-10-year-anniversary-ready-for-10-more/