"โตโน่ ภาคิน" กับภารกิจไม่กลัวตาย ว่ายน้ำ 82 กิโลเมตร ช่วยเหลือสัตว์ทะเลหายาก

"โตโน่ ภาคิน" กับภารกิจไม่กลัวตาย ว่ายน้ำ 82 กิโลเมตร ช่วยเหลือสัตว์ทะเลหายาก

"โตโน่ ภาคิน" กับภารกิจไม่กลัวตาย ว่ายน้ำ 82 กิโลเมตร ช่วยเหลือสัตว์ทะเลหายาก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นอกจากเป็นนักร้อง-นักแสดง โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ ยังมีตำแหน่งเป็นทูตแห่งมหาสมุทรเพื่อความยั่งยืนแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ล่าสุดเขากำลังเดินหน้าเป็นกระบอกเสียงปลุกจิตสำนึกให้คนไทยใส่ใจสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลาสติก และเห็นถึงความสำคัญของระบบนิเวศทางทะเล ผ่านโครงการใหญ่ในชีวิต One Man & The Sea หนึ่งคนว่าย หลายคนช่วย

โดยโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ กองทัพเรือ, กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง, รวมถึงนักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม และเชี่ยวชาญระบบนิเวศทางทะเล ที่จะมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างระบบนิเวศทางทะเลที่สวยงาม เพื่อสัตว์ทะเล

 

โครงการ One Man & The Sea คืออะไร

One Man & The Sea หนึ่งคนว่าย หลายคนช่วย เป็นโครงการหนึ่งที่เรา อยากจะช่วยเหลือศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ทะเลหายากทั้งสองฝั้ง ทั้งฝั้งอ่าวไทยและฝั่งอันดามัน รวมถึงโรงพยาบาลชายฝั่งตามเกาะยังขาดอุปกรณ์ทางการแพทย์อยู่เยอะทั้งของคนและก็สัตว์  เราก็เลยคิดโครงการนี้ขึ้นมาโดยใช้ชื่อ One Man & The Sea

มันมาจากการที่ผมเริ่มเก็บขยะเมื่อปีที่แล้ว ชื่อว่า เก็บรักษ์ ดูแลในเรื่องสิ่งแวดล้อมมานาน ทะเลเป็นเหมือนเต้นกำเนิดของทุกชีวิตบนโลกใบนี้ ให้อาชีพ ให้อาหาร ให้อากาศ แต่กลับกันทะเลกลายเป็นปลายทางของขยะทุกชนิดบนโลกเหมือนกัน ก็เลยคิดว่าเราใช้การว่ายน้ำ ใช้ทะเลเป็นตัวสะท้อนไปหาทุกๆ คน ในการให้ทุกคนกลับมาช่วยทะเลกัน

ว่ายน้ำข้าม 82 กิโลเมตร ข้าม 12 เกาะ กลัวไหม

ไม่กลัวนะครับ คือว่าเรารู้มากขึ้นเรื่อยๆ ว่ามันมีอะไรบ้างที่ต้องระวัง ถ้าหลักๆ เลยก็มีอยู่ 3-4 อย่างกระแสน้ำว่าแต่ละวันมันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง พวกสัตว์มีพิษ แมงกะพรุน แตนทะเล มันมีมากขึ้น เพราะเต่าทะเลมันน้อยลงเต่าเนี่ยมันกินแมงกะพรุน เมื่อก่อนเราจะมีแมงกะพรุนไฟ แมงกะพรุนกล่อง แต่ที่มันมีเพิ่มขึ้นมาก็คือ แมงกะพรุนนักรบโปรตุเกส แต่เดี๋ยวนี้มันมีก็เพราะว่าโลกมันเปลี่ยนไป สิ่งแวดล้อมมันแย่ลง มันก็เป็นพวกชนิดที่ถ้าโดนแล้วถึงแก่ชีวิตได้  แล้วในเรื่องของฮีทสโตรก เรื่องความร้อนอะไรอย่างเนี้ย เพราะว่าเวลาอยู่ในน้ำ ร่างกายเราร้อน แต่บางทีเราอาจจะไม่รู้สึก อีกอันหนึ่งก็คือเรื่องของน้ำทะเล ที่จะกัดพวกเนื้อเยื้อในปากในคอ ก็ต้องคอยระวังตัว อยู่ที่การเตรียมตัว เท่าที่เราจะทำได้

ไม่กลัวตายหรอ

คนหนึ่งเกิดมามีชีวิตหนึ่งเท่ากันทุกคนแหละ แต่ในเมื่อเรารู้ทั้งรู้ว่าบ้านเรามันกำลังแย่ อากาศมันแย่ขึ้นทุกวัน  เวลาสัตว์ตายเราเห็นคนเสียใจ แล้วถ้าเราไม่ช่วย หรือถ้าเราไม่ทำอะไรเลย ผมว่ามันน่ากลัวกว่าเรื่องพวกนี้อีก แต่มันอยู่ที่ว่าเราหายใจอยู่เพื่ออะไร เราทำอยู่เพื่ออะไร ผมว่ามันสำคัญกว่า

การเตรียมตัวคือสิ่งสำคัญ

พอผมรู้ว่าผมต้องว่าย ผมก็ซ้อม เพราะหนึ่งผมไม่ใช่นักกีฬาว่ายน้ำ ตอนแรกเลยผมคิดจะว่ายท่ากบ เป็นท่าที่เราถนัดที่สุด แต่พอเรามารู้ว่าเราไม่สามารถว่ายท่ากบในทะเลได้ยาวนานขนาดนั้น  เพราะเข่าจะพังมันต้องสลับท่าอื่นด้วย มันก็เลยทำให้เราต้องตัดสินใจเริ่มฝึก ก็เป็นช่วง 3-4 เดือนแรก ก็เป็นเรื่องของการปูพื้นฐานตั้งแต่ต้น แล้วก็ค่อยมาเริ่มเพิ่มระยะ เพิ่มความฟิต วิ่ง ว่ายน้ำ เพราะเฉลี่ยเราต้องว่าย 5-10 กิโลเมตร ต่อเซต 5.5 คือขั้นต่ำ แต่เรากำหนดไม่ได้ในทุกๆ วัน ว่าเราจะต้องว่ายให้ได้วันละ 7 วันละ 8 นะ เพราะว่ามันขึ้นอยู่กับกระแสน้ำด้วย ขึ้นอยู่กับมรสุมที่เราต้องเจอด้วย ดังนั้นสิ่งที่ทำได้คือซ้อมให้ดีที่สุด แต่ไม่ว่าจะมองไปทางไหน มันก็รู้สึกว่ามันคุ้มกับการที่จะลองดู

แม้รู้ว่าอันตราย… แต่คุ้ม

เพราะในระหว่างที่เราพวกเรากำลังหาวิธีทางที่เหมาะสมที่สุดในที่มันปลอดภัยที่สุด มันดีที่สุดสำหรับทุกคน ช่วยกันปลูกจิตสำนึก ช่วยกันให้ความรู้เรื่องการคัดแยกขยะ ช่วยกันลดขยะ ช่วยกันไม่ใช้ถุงพลาสติก PM 2.5 มาจากไหน เราช่วยกันหาก แต่ในทางกลับกันทะเล… หรือสัตว์เขาต้องการผลลัพธ์ เขาต้องการเลย เขาตายทุกวันแล้วเขาไม่มีเครื่องมือ เขาพูดไม่ได้ ปีหนึ่งเราเสียเต่าไปประมาณอย่างน้อย 600 ตัว เรามาช่วยกันดีกว่าในตอนที่พวกเรายังมีแรง เรายังช่วยกันได้ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป

ปัญหาสิ่งแวดล้อมในไทยน่าเป็นห่วง

ประเทศอื่นเขาจริงจังกันมานาน แต่ของบ้านเราเพิ่งจะมาตื่น แต่ผมก็คิดว่ามันก็ยังดีกว่าที่เราไม่ทำอะไรเลย  มันไปในทางที่ดี แต่ถามว่ามันเพียงพอไหม มันคงยังไม่เพียงพอ เราเจอกับปัญหานี้มาหลาย 10 ปี มันถึงแย่ขนาดนี้ การที่จะแก้ในระยะเวลาอันสั้น มันคงต้องใช้การทุ่มเทอย่างมาก แล้วก็ช่วยร่วมมือกันด้วยทุกอย่างที่เรามี อะไรจะเกิดก็เกิด

โตโน่ = สัตว์น้ำชนิดไหน

ตอนแรกๆ ก็อยากเป็นพวกเท่ๆ นะครับ อยากเป็นฉลามเป็นอะไรแบบนี้  แต่ช่วงหลังๆ นี่โดนหอยบาดบ่อยมาก  เป็นอะไรดีว้า… เดี๋ยวนะครับ ผมขอนึกก่อนนะครับ ตอนนี้เป็นเต่าก็แล้วกัน เพราะผมช้า ผมเพิ่งเรียนรู้อะครับ  แล้วผมก็ไม่ไวเลย ก็จะพยายาม มันน่าจะอดทน ไม่รู้ล่ะว่า คนอื่นเขาไปกันได้ไวขนาดไหน เรียนรู้เร็วขนาดไหน แต่สำหรับผม ผมมองว่า ถ้าให้อดทนอยู่ในทะเลไปเรื่อยๆ ของเรา ผมว่าผมน่าจะเหมือนเต่า ผมไม่ฉลาดด้วย เต่ามันเห็นถุงพลาสติกมันก็คิดว่าเป็นแมงกะพรุน มันก็กิน มันก็ตาย ผมก็ไม่มีความรู้เหมือนกัน ผมก็เพิ่งมามีความรู้เมื่อปีที่ผ่านมาเนี่ยแหละ หลังจากที่ได้เริ่มเก็บขยะ ได้รู้จากสื่อมวลชน ได้รู้จากนักวิชาการหลายๆ คนที่เขามาให้ความรู้เรา มันก็ทำให้เรารู้ ว่าเราต้องทำอย่างไร เราควรจะต้องช่วยตรงไหน อะไรคือสิ่งที่น่ากลัว

สำหรับ โตโน่ จะเริ่มกิจกรรมว่ายน้ำตัวเปล่า ข้าม12 เกาะ สุราษฎร์-สมุย ในวันที่ 19 มีนาคม พร้อมเชิญชวนให้คนไทยร่วมกันสมทบทุนเพื่อซื้ออุปกรณ์การแพทย์ช่วยเหลือสัตว์ทะเลและโรงพยาบาลชายฝัง ผ่านทางบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเพชรบุรีตัดใหม่ ชื่อบัญชี: มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทยฯ เพื่อโครงการเทใจ (TRRM FOR TAEJAI) เลขบัญชี 043-272833-9 หรือติดตามรายละเอียดของโครงการได้ทาง Facebook แฟนเพจ เก็บรักษ์ และทาง Instagram เก็บรักษ์

อัลบั้มภาพ 24 ภาพ

อัลบั้มภาพ 24 ภาพ ของ "โตโน่ ภาคิน" กับภารกิจไม่กลัวตาย ว่ายน้ำ 82 กิโลเมตร ช่วยเหลือสัตว์ทะเลหายาก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook