ผวามมือถือสั่น แค่คิดไปเองหรือเปล่า ?

 

30 ปีมานี้เทคโนโลยีเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ชีวิตมนุษย์ของเราเปลี่ยน เราเดินทางกันมากขึ้น เราอ้วนขึ้น เรามีไมโครเวฟเป็นเหมือนครัวยามยาก เราหาทุกอย่างได้จากกูเกิล และเรารอดตายกันมากขึ้น แต่ขณะเดียวกันมนุษย์ก็ต้องเผชิญหน้ากับโรคแปลกๆ ที่มากับเทคโนโลยีมากขึ้นเช่นกัน หนึ่งในโรคแปลกๆ ที่ว่า เป็นอาการที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมี ถึงมี ก็ไม่น่าจะถือว่าเป็นโรคได้ แต่ก็เป็นไปแล้ว โรคที่เราพูดถึง ฝรั่งเรียกว่า Phantom Vibration Syndrome-PSV อาการของโรคนี้คือ อาการหลอน คิดไปว่าโทรศัพท์มือถือของตัวเองสั่นอยู่บ่อยๆ !

รายงานของโรคนี้เริ่มเมื่อราวปี 2007 หนังสือพิมพ์ยูเอสเอ ทูเดย์ ตีพิมพ์เรื่องของคนจำนวนไม่น้อยในสหรัฐอเมริกาเริ่มมีความรู้สึกว่าโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงของตัวเองนั้นสั่นอยู่บ่อยๆ แต่เมื่อหยิบขึ้นมาดูก็พบว่าอุปาทานไปเอง ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เจฟฟรีย์ จานาตา ผู้อำนวยการโครงการศึกษาพฤติกรรมที่เกี่ยวเนื่องทางการแพทย์ จากมหาวิทยาลัยการแพทย์คลีฟแลนด์ ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า ความรู้สึกดังกล่าวถือเป็นอาการหลอนอย่างหนึ่ง ซึ่งเกิดจากการที่ร่างกายเรียนรู้ที่จะระแวดระวังโดยอัตโนมัติ “การตั้งเตือนเป็นระบบสั่นโดยปิดเสียง ได้สร้างเงื่อนไขให้กับการรับรู้ของมนุษย์โดยอัตโนมัติ โดยเฉพาะเมื่อโทรศัพท์มือถือคืออุปกรณ์ที่เราใช้สื่อสารกับคนอื่น” คุณหมอยังบอกด้วยว่าการที่มนุษย์เป็นสัตว์สังคมซึ่งโดยสัญชาตญาณนั้นพร้อมจะติดต่อกับคนอื่นอยู่แล้ว ฉะนั้นอาการแบบนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการปรับตัวเองให้พร้อมปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นอย่างทันท่วงที

สิ่งที่ต้องคิดต่อก็คือ แล้วมันส่งผลกระทบอะไรกับร่างกายของเราไหมตลอด 5 ปีที่ผ่านมา การศึกษาเรื่องนี้เริ่มมีกันอย่างกว้างขวางมากขึ้นเรื่อยๆ มีการศึกษาในหลายมหาวิทยาลัยในเวลาต่อมาว่าปรากฏการณ์แบบนี้ เมื่อเกิดขึ้นซ้ำๆ มากขึ้นเรื่อยๆ สมองจะสั่งการไปที่ระบบประสาทและเกิดการจดจำว่านี่คือ ‘นิสัย’ หนึ่งที่ร่างกายควรระวัง และผู้ที่มีอาการแบบนี้ก็ดูเหมือนจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ ตามปริมาณการใช้งานของโทรศัพท์ซึ่งเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี

ปีที่แล้วมีการสำรวจเจ้าหน้าที่ศูนย์การแพทย์เบย์สเตท เมดิคัล ในสปริงฟิลด์ แมสซา-ชูเซตส์ พบว่าเจ้าหน้าที่กว่าร้อยละ 68 ยอมรับว่าตัวเองมีอาการแบบ PSV จริงๆ แน่นอนว่ามันเป็นตัวเลขที่ถือว่าไม่น้อย

ข้อสรุปที่มีตอนนี้คือ แพทย์ถือว่า PSV เป็นอาการอย่างหนึ่งของความเครียด ซึ่งเป็นผลมาจากความกดดันที่อยู่ข้างในลึกๆ ทำให้คนคนนั้นหมกมุ่นและคิดวนเวียนอยู่แต่เรื่องเดิมซ้ำๆ คล้ายๆ กับโรคย้ำคิดย้ำทำ (Obsessive-Compulsive Disorder-OCD) แบบหนึ่ง แต่หากคุณมีอาการแบบนี้จริงๆ ก่อนที่คุณจะไปปรึกษาหมอจริงๆ จังๆ วิธีง่ายๆ ในการทดสอบว่าคุณเข้าขั้นเครียดอย่างนั้นจริงหรือเปล่า คือให้ลองเปลี่ยนการเตือนสายเรียกเข้า มาเป็นแบบเสียงเพียงอย่างเดียว ปิดระบบสั่นซะ ลองดูสักสองสามสัปดาห์ แม้ว่ามันอาจจะสร้างความรำคาญให้กับคนอื่นๆ บ้าง แต่เชื่อว่าถ้าคุณบอกเพื่อนร่วมโต๊ะประชุมว่ากำลังอยู่ในระหว่างการรักษานิสัยแย่ๆ ของคุณอยู่ เรื่องแบบนี้ คนรักกันจริงเขาไม่โกรธหรอกครับ