เช็คกันหน่อยว่า คุณฟังเสียงของตัวเองบ้างไหม

เช็คกันหน่อยว่า คุณฟังเสียงของตัวเองบ้างไหม

เช็คกันหน่อยว่า คุณฟังเสียงของตัวเองบ้างไหม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“เรื่องน่าเศร้าอย่างหนึ่งในชีวิตเราคือการใช้ชีวิตเพื่อสร้างความพอใจให้กับผู้อื่น มากกว่าจะซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของตัวเอง”

หลายคนใช้ชีวิตอย่างที่คนอื่นอยากให้เป็น หรือ อยากสร้างความพึงพอใจให้กับผู้อื่น อยากได้รับเสียงชื่นชมหากทำตามสิ่งที่คนรอบข้าง หรือ สังคมกำหนดให้ทำ แต่แท้จริงแล้วสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่นั้น ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริงของคุณเลย และการใช้ชีวิตโดยหลอกตัวเองว่ามีความสุขไปวันๆ ก็ยิ่งสร้างความทุกข์ใจให้กับคุณมากขึ้นเรื่อยๆ คุณเป็นอย่างที่กล่าวมาทั้งหมดนี้หรือไม่ หรือถ้ายังไม่แน่ใจ ลองมาสำรวจตัวเองกันหน่อยไหมว่าคุณ ซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเองมากน้อยแค่ไหน

1. คุณยืนหยัดเพื่อตัวคุณเอง
การเป็นตัวของตัวเองนั้นบางครั้งก็ไม่ได้ทำได้ง่ายนัก เพราะในหลายสถานการณ์ คุณต้องลดความเป็นตัวของตัวเองลงเพื่อให้เข้ากับกลุ่ม หรือ เข้ากับสังคมที่คุณกำลังใช้ชีวิตอยู่ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่เหลือตัวตนของคุณอยู่เลย การปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์นั้นเป็นเรื่องที่ดี และการแสดงจุดยืนที่ชัดเจนของตัวเองในเรื่องถูกและผิด ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ตัวตนของคุณยังคงอยู่

2. คุณไม่ลังเลที่จะทำตามใจปรารถนา
แรงปรารถนา นี้ไม่ได้หมายถึงความปรารถนาที่ไม่ดี แต่เป็นความปรารถนาที่สร้างสิ่งที่ดีให้เกิดขึ้นกับตัวคุณ ถ้าคุณคิดว่าคุณเต็มที่กับสิ่งที่ทำแล้ว และ มีความมุ่งมั่นมากพอที่จะเริ่มสิ่งใหม่ และตัดสินใจลงมือทำทันทีโดยไม่ลังเล และพร้อมจะรับผลที่ตามมา นั่นแสดงให้เห็นว่าคุณยังคงซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกของตนเองอยู่

3. คุณกล้าที่จะยอมรับผิด และ รับผิดชอบต่อการกระทำของตนเอง
ในขณะที่คนอื่นอาจจะรู้สึกกลัวเมื่อทำอะไรผิดพลาดลงไป บางคนก็นั่งตีโพยตีพายโทษคนอื่น แต่คุณลุกขึ้นยืนและพร้อมจะรับผิดชอบในผลของการกระทำที่ผิดพลาด นั่นหมายความว่าคุณเห็นคุณค่าในตนเองว่ายังมีดีพอที่จะแก้ไขสถานการณ์ และ พร้อมจะเรียนรู้สิ่งใหม่จากข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น

4. คุณกล้าที่จะแสดงความรู้สึกและอารมณ์ที่แท้จริงของคุณออกมา
ทุกวันนี้เราจะเจอแต่ผู้คนสวมหน้ากากที่เปื้อนด้วยรอยยิ้ม ไม่ว่าจะผิดหรือถูกทุกคนต่าง ยิ้มใส่กันอย่างมีนัยยะ ทำให้เราไม่สามารถล่วงรู้ได้เลยว่าแท้จริงแล้วบุคคลคนนั้นคิดอะไรอยู่ และ พวกเขาเองก็คงรู้สึกไม่ต่างจากคุณ เพราะการจะหลอกคนอื่นได้นั้นต้องหลอกตัวเองให้ได้เสียก่อน ดังนั้นการซื่อสัตย์ต่อตัวเอง ทั้งอารมณ์และความรู้สึก นั้นจึงเป็นการรักษาตัวตนที่ดีที่สุดสำหรับตัวคุณเอง

5. คุณไม่ปล่อยให้คำพูดของผู้อื่นมามีอิทธิพลเหนือตัวคุณเอง
เราต่างจะมีห้วงเวลาที่ต้องพยายามทำให้คนรอบข้าง หรือสังคมที่เราอยู่พึงพอใจในสิ่งที่เรากระทำ แต่การปฎิบัติตัวตามความพอใจของผู้อื่นนั้นจะทำให้ความเป็นตัวตนของเราลดน้อยลงไปเรื่อยๆ การฟังเสียงของคนอื่นมากเกินไปไม่ได้ส่งผลดีต่อตัวคุณเลย อย่าปล่อยให้เสียงของคนอื่นมามีอิทธิพลเหนือตัวคุณเอง จงกล้าที่จะยอมรับสิ่งที่ตัวเองเป็น และ กล้าที่จะรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองได้เลือกแล้ว

6. คุณไม่ยอมเสียเวลา และ ไม่นั่งฝันกลางวันไปเรื่อย ๆ
คุณรู้ดีว่าถ้ามัวแต่นั่งฝัน โดยไม่ลงมือทำ เวลาที่จะไปสู่ผลสำเร็จนั้นก็จะหมดลงไปเรื่อยๆ ทุกวันนี้หลายคนปล่อยให้เวลาในชีวิตหมดไปกับโซเชียลมีเดีย เพียงเพื่อได้แสดงตัวตนให้คนในโลกคู่ขนานเข้ามากดไลค์ หรือ กดแชร์ ซึ่งการมีความสุขในโลกโซเชียลมีเดีย นั้นไม่ใช่ความสุขที่แท้ และ คุณเองก็เห็นว่าโลกใบดังกล่าวได้บั่นทอน ความเป็นตัวตนของคุณให้ลดลง ดังนั้น ถ้าคุณไม่เสียเวลาไปกับโลกโซเชียล ก็เท่ากับว่าคุณเห็นคุณค่าที่แท้จริงของตนเองมากขึ้น

7. คุณยอมรับความเปลี่ยนแปลง และ ยินดีที่จะรับสิ่งใหม่
ความเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอนของโลกใบนี้สร้างความหวั่นไหวให้กับใครหลายคน ความกลัวต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้น และ เป็นสิ่งใหม่ที่ไม่เคยรู้จัก ทำให้หลายคนไม่กล้าที่จะเสี่ยง แต่ถ้าคุณซื่อสัตย์ต่อตัวคุณเอง ไม่ว่าจะหวั่นไหวแค่ไหน แต่คุณก็รู้ตัวดีว่า ความเปลี่ยนแปลงนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา จะดีกว่าถ้าเปิดรับความเปลี่ยนแปลง และ พยายามหาโอกาสจากสิ่งใหม่ นั่นคือสิ่งที่แสดงความเป็นตัวคุณออกมาอย่างแท้จริง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook