10 แนวคิด การปั่นจักรยานในเมืองให้ปลอดภัย

การปั่นจักรยาน กลายเป็นเทรนด์ฮิตในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา และดูท่ากระแสในครั้งนี้จะไม่ใช่กระแสที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปเหมือนเทรนด์อื่นๆ ที่เห็นกันดาดดื่น เราจะพบว่ามีกลุ่มนักปั่นเกิดขึ้นมากมาย อีกทั้งภาครัฐก็ยังให้การสนับสนุนอย่างจริงจัง แต่ทั้งนี้เราจะพบว่าผู้ที่ปั่นจักรยานไม่ได้ปั่นเพื่อสุขภาพเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีกลุ่มนักปั่นที่ใช้จักรยานเพื่อเป็นพาหนะเดินทางภายในเมืองอีกด้วย

ซึ่งกลุ่มนักปั่นจักรยานในเมืองนี้มีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ หากไม่รู้หลักหรือวิธีระวังป้องกัน บทความนี้จึงได้รวบรวม 10 แนวคิดปั่นจักรยานในเมืองให้ปลอดภัยเพื่อนักปั่นจักรยานในเมืองโดยเฉพาะ

1. ศึกษาเส้นทางเสียก่อน

การศึกษาเส้นทางจะทำให้เราทราบถึงเส้นทางที่เราจะปั่นไปอีกทั้งยังคำนวนเวลาได้อีก การศึกษาเส้นทางทำให้สามารถหลีกเลี่ยงเส้นทางรถติดหรือกำลังมีการทำทางเกิดขึ้น ทำให้ลดการเสียเวลาและเพิ่มความปลอดภัยไปในตัว Application, Google Map หรือ GPS เอามาใช้เลยมีประโยชน์มากๆ

2. ตรวจสภาพจักรยานและติดอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย

มันก็คือการบำรุงรักษาจักรยานของเรานั่นเอง เติมลมยาง ติดสัญญาณไฟ เช็คระบบเบรค ทั้้่งหมดสำคัญทั้งนั้น หากปั่นจักรยานแล้วเกิดจักรยานมีปัญหากลางถนนย่อมไม่น่ายินดีแน่ๆ อีกทั้งอุปกรณ์เช่นสัญญาณไฟ ยังช่วยให้ผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นทราบด้วยว่าเราก็กำลังใช้ถนนเหมือนกับคุณนะ

3. สวมอุปกรณ์ป้องกันต่างๆ

เมื่อเสริมความปลอดภัยให้จักรยาน ตัวผู้ขับขี่เองก็อย่าได้ละเลย เช่น หมวกกันน็อค ถุงมือ เป็นต้น หลายคนอาจคิดว่ามันไม่เท่! แต่สิ่งที่ดูไม่เท่นี่แหละช่วยชีวิตหรือผ่อนหนักให้เป็นเบาได้มาแล้ว อย่างไรก็ตามทุกวันนี้อุปกรณ์หรือเครื่องแต่งกายสำหรับนักปั่นก็มีการพัฒนาให้มีความเป็นแฟชั่นในตัวมากขึ้นใส่แล้วหล่อสวยกันเยอะแยะ ลองเลือกหามาใช้กันดูละกัน

4. เลี่ยงพื้นผิวจราจรที่ไม่ดี

เช่น ทางขรุขระ ร่องท่อระบายน้ำ หรือทำเส้นทาง คือทางที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะนอกจากจะปั่นยากแล้ว ยังอาจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้อีก แต่หากเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ก็เสียเวลาสักนิด ด้วยการการลงจากจักรยานและเข็นเดินไปดีกว่าเสี่ยงปั่นไปสะดุดแล้วต้องเจ็บตัวเลย เจ็บตัวไม่ว่าแต่ระวังจะเสียโฉม!

5. ขับชิดริมขอบทาง

แม้ปัจจุบันจักรยานบางชนิดจะสามารถทำความเร็วได้สูง แต่ก็ไม่ต้องห้าวหาญไปกับแข่งความเร็วกับรถมอเตอร์ไซต์หรือรถยนต์ เราปั่นสบายๆ ริมขอบทางแบบนี้แหละดีแล้ว แต่สิ่งที่พึงระวัง คือรถที่ใช้ถนนริมขอบทางเหมือนเรา เช่น รถมอเตอร์ไซต์ รถเมล์ รวมถึงรถยนต์ที่จะชิดซ้ายเพื่อจอดหรือเลี้ยวเข้าซอย ขณะปั่นเราจึงต้องคอยสังเกตรถรอบด้านและไม่ใช้ความเร็วจนเกินไป อ่อ! แม้ ณ. ปัจจุบันจะมีเส้นทางจักรยานแต่สำหรับผู้ที่ปั่นไปทำงานอย่าหวังมากเลย เพราะเส้นทางจักรยานยังไม่ครอบคลุมทั้งเมือง ฉะนั้นตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ปลอดภัยไว้ก่อน

6. เคารพกฎจราจร

แม้การปั่นจักรยานจะไม่มีได้กฎเกณฑ์บังคับเข้มงวดแบบรถยนต์หรือรถมอเตอร์ไซต์ แต่เนื่องจากเราใช้ถนนร่วมกัน นักปั่นจึงต้องให้ความเคารพกฎจราจรเช่นเดียวกัน เปิดเน็ตหรือหนังสือศึกษาดูเลยไม่ยาก!

7. มีน้ำใจเมื่อปั่นบนทางเท้า

ชื่อก็บอกว่าทางเท้าหรือคนอื่นจะเรียกฟุตบาท หรือ บาทวิถี จะเรียกอะไรก็ตาม เอาง่ายๆ มันคือทางสำหรับผู้คนทั่วไปใช้สำหรับเดินนั่นแหละ ฉะนั้นหากเรามีความจำเป็นต้องปั่นจักรยานบนทางเท้า ควรลดความเร็วและให้เกียรติต่อคนใช้ทางเท้าโดยให้เขาไปก่อนเสมอ ไม่ควรใช้สัญญาณเสียงให้ผู้ใช้ทางเท้าตกใจ แต่ใช้วิธีส่งเสียงขอทางด้วยความสุภาพแทนจะดูเป็นน่ารักกว่าเยอะ

8. อย่าเกาะรถที่กำลังแล่น

ข้อนี่คือสิ่งที่นักปั่นหลายมืออาชีพรู้กันดี แต่มือสมัครเล่นหลายคนมักจะเคยทำกัน หลายคนน่าจะเคยเห็นคลิปที่นักปั่น ปั่นจักรยานขนานกับรถยนต์หรือรถบรรทุกแล้วนำมือไปจับและให้รถลากไปแทนการปั่น ซึ่งก็ดูสนุกดี แต่ไม่แนะนำให้ทำอย่างยิ่ง เพราะรถอาจออกตัวกระชากทำให้รถจักรยานเราคว่ำได้ และหากรถที่ตามหลังมาไม่สามารถหยุดรถได้ทัน…!!! คงไม่ต้องให้บอกต่อนะครับว่าอะไรจะเกิดขึ้น

9. ฝึกการใช้สัญญาณมือ

ทักษะนี้นักปั่นหลายคนก็ละเลย ยิ่งเราปั่นจักรยานคนเดียวยิ่งเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการสื่อสารให้ผู้ขับรถที่อยู่หลังเราได้รู้ว่าเรากำลังจะทำอะไรเช่น เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา หรือกำลังจะหยุด เป็นต้น

10. มีสติอย่าประมาท

ข้อสุดท้ายนี่อาจเรียกได้ว่าสำคัญที่สุดแล้ว เราปั่นก็ไม่ใช่ปั่นชิวๆ ดูสาวข้างทาง ผู้ปั่นต้องมีสติอย่าประมาท ยิ่งเป็นในเมืองที่การจราจรคับคั่งยิ่งต้องเพิ่มสติสตางค์ขึ้นเป็นสองเท่า

ทั้งหมดก็คือ แนวคิดการปั่นจักรยานเมืองให้ปลอดภัย ที่เรานำเอามาแชร์กัน ก็หวังว่าจะมีประโยชน์ต่อผู้ที่ปั่นจักรยานไปทำงาน หวังว่าจะทำให้การปั่นจักรยานในเมืองกลายเป็นความสนุกเพลิดเพลินและปลอดภัยอย่างแท้จริง

ที่มาภาพ - galleryhip