มะเร็งเต้านม ผู้ชายก็เป็นได้

James Thompson หนุ่มใหญ่วัย 50 ปี ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล จัดว่าเป็นชายคนแรกในอังกฤษ ที่เข้ารับการผ่าตัดมะเร็งเต้านม เขาเล่าให้ฟังถึงโรคที่ร้อยละ 99 ของคนไข้เป็นผู้หญิง

ผมเป็นผู้ชายทั่วไปที่ดูแลสุขภาพ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ วันหนึ่งผมอยู่ในยิม มองกระจกว่าทำไมอกผมถึงใหญ่ไม่เท่ากัน ข้างหนึ่งมีก้อนนูนออกมา พอจับดูแล้วรู้สึกเจ็บ ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก วันต่อมาได้เจอเพื่อนที่เป็นหมอมาคุยเรื่องมะเร็งเต้านมในผู้หญิง ทำให้ผมฉุกคิดถึงตัวเอง เล่าเรื่องหน้าอกของตัวเองให้เพื่อนที่เป็นหมอฟัง หมอก็เลยแนะนำให้ไปพบหมอประจำตัว

คุณเจมส์เล่าว่าหลังจากไปพบหมอแล้วหมอวินิจฉัยว่าน่าจะมีโอกาสเป็นมะเร็งเต้านม เขาเล่าประสบการณ์ที่น่าตลกเมื่อไปโรงพยาบาลว่า พยาบาลถามเขาว่าเคยตรวจ แมมโมแกรม (ตรวจหามะเร็งเต้านมด้วยเครื่อง)ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ถามเสร็จพยาบาลก็หัวเราะ เพราะว่าเขาเป็นผู้ชายไม่เคยคิดว่ามีความจำเป็นที่จะต้องตรวจ

เมื่อการตรวจชิ้นเนื้อ ผลออกมาว่าเป็นมะเร็งแน่นอน เมื่อเขาต้องไปพบหมอที่โรงพยาบาลเขาก็เป็นผู้ชายคนเดียวที่อยู่ในแผนกนั้น ที่เหลือล้วนเป็นหญิง

คุณเจมส์ผู้ชายโชคร้ายหนึ่งในแปดร้อยเล่าต่อว่า ผมจะต้องเข้ารับการผ่าตัด ทางโรงพยาบาลก็ส่งผมไปอยู่ในแผนกผ่าตัดมะเร็งเต้านม ปรากฏว่า แผนกนี้เขาอนุญาตให้เฉพาะคนไข้ผู้หญิง (แน่นอนที่สุด มะเร็งเต้านม คนไข้ส่วนมากเป็นผู้หญิง) ผมจะเข้าไปในบางห้องยังไม่ได้เลยด้วยซ้ำ เพราะจะมีป้ายเขียนว่าเฉพาะสุภาพสตรีเท่านั้น ผมเลยตัดสินใจไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลเอกชน เพราะมีประกันเบิกได้

ก่อนผ่าตัดหมอก็มาคุยว่ากระบวนการผ่าจะเป็นอย่างไร เอาตัวอย่างการผ่าตัดมาให้ดู ก็มีแต่ตัวอย่างเต้านมผู้หญิง ดูไปก็นึกภาพเทียบกับตัวเองไม่ออก แต่หมอบอกว่าผ่าแล้วหัวนมผมจะหายไป และมีแผลเป็นน่าเกลียดอยู่บนหน้าอก และที่ล้อเล่นกับชีวิตมิสเตอร์เจมส์อีกประการหนึ่งก็คือ เขาทำงานในบริษัทที่จำหน่ายยาแก้มะเร็งเต้านมในผู้หญิงมาตลอด และครั้งนี้เขาก็ต้องกินยาที่ว่านี้ด้วย

หลังการผ่าตัด เจมส์ต้องงดเล่นกีฬาที่รุนแรงที่อาจกระทบต่อทรวงอกเขา เช่น เทนนิส หรือการออกกำลังกายที่หนัก ๆ แบบผู้ชาย

อะไรในโลกล้วนไม่แน่นอน มะเร็งเต้านมที่ว่าไม่ใช่โรคของผู้ชายก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ แต่มะเร็งรังไข่ในผู้ชายคงเป็นไปไม่ได้เท่า ๆ กับมะเร็งต่อมลูกหมากในผู้หญิง แต่ถ้ามีก็จะเอามาเล่าสู่กันฟัง