“นอนแยกเตียง” ส่งผลต่อความสัมพันธ์ของคู่สามีภรรยาหรือไม่

ทุกวันนี้ เห็นได้ว่ามีสามีภรรยาที่นอนแยกเตียงกันหลายคู่ แม้ว่าจะมีลูกด้วยกันหรือไม่ก็ตาม ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตตามมาว่า การนอน “แยกเตียง” จะส่งผลต่อความสัมพันธ์ หรือกระทบกับชีวิตแต่งงานหรือไม่แจ๊คเกอลีน ฮัลเยอร์ นักจิตเพศบำบัดและโค้ชด้านความสัมพันธ์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า การนอนเตียงเดียวกันของคู่สามีภรรยาไม่ใช่คำตอบ หากบรรยากาศการนอนไม่น่าพิสมัย ซึ่งนั่นอาจทำให้ชีวิตคู่ต้องพังลงด้วย แม้ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดด้านความสัมพันธ์ระหว่างชีวิตคู่ คือ การสัมผัสเนื้อต้องตัวกัน แต่ก็ไม่จำเป็นต้องนอนกอดกันบนเตียงจนกระทั่งหลับไปด้วยกัน

ขณะที่ผลสำรวจความเห็นของคู่แต่งงานที่เคยมีมา ก็พบว่ามีคู่สามีภรรยามากถึง 30-40 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียวที่ไม่ได้นอนร่วมเตียงเดียวกัน แม้แต่คู่ของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา กับสุภาพสตรีหมายเลข 1 อย่าง เมลาเนีย ทรัมป์ ก็ยังมีรายงานว่าทั้งคู่นอนแยกเตียงกัน

ทั้งนี้ เป็นเพราะบางคนต้องเจอกับปัญหาคู่ของตัวเองนอนกรนจนทำให้นอนไม่หลับ หรือบางคู่ก็มีความจำเป็นต้องนอนแยกเตียงเพื่อดูแลลูกที่ยังเล็กอยู่ ขณะที่บางคนก็ต้องการเวลาส่วนตัวในการนอนหลับอย่างมีคุณภาพ ซึ่งจากผลสำรวจพบว่าหลายคนหลับดีขึ้นเมื่อแยกเตียง เพราะสามารถหลับได้สนิทโดยไม่ถูกกวนให้ต้องตื่นด้วยเสียงกรน หรือการขยับร่างกายของอีกฝ่ายนั่นเอง

เหมือนเช่นกรณีของ ลิลลี่ กรอสแมน หญิงอเมริกันที่ตัดสินใจนอนแยกเตียง เพราะสามีนอนกรนจนทำให้เธอต้องตื่นขึ้นมากลางดึกบ่อยๆ ซึ่งหากฝืนนอนด้วยกันต่อไป ก็เชื่อว่าต้องหย่าขาดจากกันในสักวันหนึ่ง แต่หลังจากนอนแยกเตียง ปรากฏว่าคุณภาพชีวิตของเธอดีขึ้น เพราะตื่นมาด้วยความสดชื่น และยังทำให้รักสามีมากขึ้นด้วย