ล่องแก่งลำน้ำเข็ก ให้ชุ่มฉ่ำ

ล่องแก่งลำน้ำเข็ก ให้ชุ่มฉ่ำ

ล่องแก่งลำน้ำเข็ก ให้ชุ่มฉ่ำ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อหน้าฝนมาเยือนหลายคนคงเซ็ง!! กับสภาพอากาศและพื้นผิวที่เฉอะแฉะ!! แต่ฝนโปรยชุ่มฉ่ำแบบนี้ก็ยังมีอีกสถานที่หนึ่งยังรอหนุ่มๆ อย่างเราไปปลดปล่อยความซ่า...ส์ ท้าความมันส์... กันอยู่ อย่างกิจกรรมการล่องแก่งที่ลำน้ำเข็ก เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์นี่เอง

ต้นกำเนิด ลำน้ำเข็ก
ลำน้ำเข็ก มีต้นกำเนิดจากเทือกเขาในจังหวัดเพชรบูรณ์ ทางด้านอำเภอเขาค้อ ไหลผ่านอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง เป็นน้ำตกศรีดิษฐ์ และน้ำตกแก่งโสภา ไหลผ่านอำเภอวังทอง ไปรวมกับแม่น้ำน่าน ที่อำเภอบางกระทุ่ม

ช่วงที่เหมาะสมสำหรับการล่องแก่งในลำน้ำเข็ก คือระหว่างเดือนกรกฎาคม ถึง เดือนตุลาคม ในช่วงหน้าฝนจะมีน้ำสีน้ำตาลแดงขุ่น ระยะทางในการล่องแก่งกว่า 8 กิโลเมตร และใช้เวลาล่องแก่งไม่เกิน 3 ชั่วโมง

ลดเลี้ยวไปตามลำน้ำเข็ก
ลำน้ำเข็กมีกระแสน้ำที่ค่อนข้างหลากหลาย ตามลักษณะของโค้งน้ำ ตั้งแต่การไหลเอื่อยไปตามแนวลำธารเรียบๆ จนถึงเชี่ยวกรากกลางแก่งหินในลำน้ำ ความยากของการล่องแก่งมีให้เลือกตั้งแต่ระดับ ง่ายมาก จนถึงระดับยากที่สุด จึงเป็นที่ท้าทายของนักผจญภัย ลำน้ำเข็ก จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ติดอันดับท๊อปฮิตของนัก ล่องแก่ง ในเมืองไทยให้ได้มาทดสอบความกล้าหาญปล่อยความมันส์กันให้เต็มที่กันเลยทีเดียว

ระดับความยากง่ายของการล่องแก่ง
ระดับ 1 ง่ายมาก มีแก่งเล็กน้อย น้ำจะไหลไปเรื่อยๆ ไม่อันตราย
ระดับ 2 ธรรมดา น้ำไหลแรงขึ้น เริ่มมีแก่งบ้าง
ระดับ 3 ปานกลาง มีแก่งที่น่าตื่นเต้นมากขึ้น
ระดับ 4 ยาก มีแก่งมาก หรือน้ำอาจจะแรง และมีโขดหินที่ขวางลำน้ำ
ระดับ 5 อันตรายมาก ไม่เหมาะกับการล่องแก่ง อาจเกิดอุบัติเหตุได้

แก่งที่รอพวกเราปลดปล่อยความมันส์มีทั้งหมด 18 แก่งดังนี้

- แก่งท่าข้าม เป็นแก่งที่ไม่ใหญู่นัก ความยากก็อยู่ประมาณ 1-2

- แก่งไทร เป็นแก่งที่มีความยากในระดับ 3-4

- แก่งมรดกป่า เป็นแก่งที่มีความยากในระดับ 3

- แก่งปากยาง ที่แก่งปากยางนี้จะมีความยาวต่อเนื่องกันประมาณ 100 เมตร กระแลน้ำไหลจะอยู่ทางด้านซ้ายของลำน้ำ ความยากของแก่ง ปากยางอยูในระดับ 2-3 แลัวแต่ความมากน้อยของน้ำ

- แก่งหินลาด จะเป็นช่วงลุดท้ายของแก่งปากยาง เป็นหินลดระดับลงห่างกันประมาณ 1 เมตร เมื่อผ่านแก่งไปได้ สายน้ำ จะลดความรุนแรง ลงกลายเป็นน้ำนิ่งไหลเอื่อยๆ

- แก่งสวนรัชมังคลา 1 , 2 ความรุนแรงในระดับ 3-4 ถ้าเป็นช่วงที่น้ำ มากๆ จะมียอดคลื่นสูงเกิน 1เมตร

- แก่งซาง จะอยู่ไม่ไกลจากแก่งสวนรัชมังคลา ก่อนที่เรือจะถึงแก่งซางนั้นสายน้ำจะค่อนข้างเรียบ ลักษณะของแก่งซางจะเป็นลานหินกว้างมาก และลดระดับ ลงในแต่ละช่วง ลงไม่ต่ำกว่า 10 เมตรทีเดียว แก่งนี้จึงมีความยากในระดับ 4-5 เมื่อเรือผ่านน้ำนิ่ง สายน้ำจะหักเลี้ยวซ้ายทันทีที่เรือ เลี้ยวซ้าย มาตามลายน้ำ คุณจะไต้พบกับความยิ่งใหญ่ของ แก่งซาง จึงจัดได้ว่าเป็นแก่งที่ค่อนข้างจะอันตราย

- แก่งโสภาราม เป็นแก่งหักศอกตัว s ความ รุนแรงไม่เท่าไหร่ แต่จะโค้งหักศอก

- แก่งดงสัก เป็นแก่งที่มีความยากในระดับ 3

- แก่งนางคอย จะอยู่ห่างจากแก่งซางไม่ไกลนัก ลักษณะของแก่งนางคอยจะเป็นการลดระดับของชั้นหิน และกระแสน้ำ ที่มีความสูงเกือบๆ 2 เมตร ความยากจะอยู ในระดับ 4-5 ควรจอดเรือบนลานหินเหนือ แก่งแล้วลองเดินไปดูสภาพของแก่งเลียก่อน ว่าควรจะ นำเรือไปตามล่องน้ำ ด้านใหน

- แก่งดูด เป็นแก่งที่มีความยากในระดับ 1-3

- แก่งยาว จะมีความยาวกว่า 100 เมตร สมกับชื่อของแก่ง จะเป็นแก่งที่สายน้ำจะผ่านโขดหินมากมาย และค่อยๆลดระดับลาดเอียงลงสู่ด้านหน้าของแก่ง ความ ยากของแก่งยาวนี้จะอยู่ในระดับ 3-5 แล้วแต่ระดับของน้ำ

- แก่งวังน้ำเย็น ความยากในระดับ 1-2

- แก่งทับขุน ความยากในระดับ 1-2

สนุกสนานกับการล่องแก่งแล้วต้องอย่าลืมความปลอดภัยกันหน่อยนะครับ ก่อนการล่องแก่งควรเเลือกเสื้อผ้าสวมใส่แล้วกระชับ มีความคล่องตัว เนื้อเบา และแห้งง่าย เช่น กางเกงขาสั้น เสื้อยืด รองเท้าที่มีน้ำหนักเบา ไม่อุ้มน้ำ มีสายรัดส้นเท้าเพื่อไม่ให้หลุดหายไปกับสายน้ำเพราะต้องเตรียมพร้อมที่จะเปียกน้ำและขึ้นไปเดินบนฝั่ง

หากมีการ เดินป่าระยะทางไกลก็จำเป็นต้องนำรองเท้าผ้าใบไปอีกคู่หนึ่ง ในช่วงฤดูหนาวควรมีเสื้อแจ๊กเกตผ้ากันลมไว้ใส่กันหนาวช่วงที่อยู่แค้มป์พักด้วย และที่สำคัญที่สุด ควรสวมหมวกนิรภัยและเสื้อชูชีพตลอดเวลาเมื่อมีการลงแพ เพื่อทริปครั้งนี้เที่ยวสนุกแล้วก็ปลอดภัยกลับบ้านกันด้วยนะครับ

ขอขอบคุณข้อมูล: patcharapongads2.blogspot.com

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook