9 ข้อที่คุณจะต้องรู้ก่อนอายุ 40 ปี รู้ก่อนได้เปรียบก่อน

9 ข้อที่คุณจะต้องรู้ก่อนอายุ 40 ปี รู้ก่อนได้เปรียบก่อน

9 ข้อที่คุณจะต้องรู้ก่อนอายุ 40 ปี รู้ก่อนได้เปรียบก่อน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มักมีคำพูดติดหูของชาวอเมริกันว่า “Life starts at 40” หรือ ชีวิตเริ่มต้นเมื่ออายุ 40 เพราะเป็นช่วงเวลาที่คุณมีทุกอย่างมั่นคงแล้ว มีเงิน มีกำลังที่จะใช้ชีวิตให้คุ้มมากที่สุด เพราะคนอายุ 40 ปี ยังไม่แก่ ยังมีไฟในการทำงาน ถ้าดูแลตัวเองดีๆ คุณจะดูดีในชีวิต 40 แบบสบายๆ ถ้าเปรียบชีวิตเหมือนคนทำงาน คนอายุ 20 ปีก็เหมือนเด็กฝึกงาน คนอายุ 30 ปี ถือเป็นหัวหน้างาน ในขณะที่คนอายุ 40 ปี ถือเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการทำงานที่มีพร้อม สำหรับคนวัยนี้จะต้องมีอะไรบ้าง มาดู

1.สุขภาพ
คนวัย 40 ปีขึ้นไปจะเผชิญกับภาวะแปรปรวนง่ายๆ อาการที่มักพบบ่อยๆ ของคนวัยนี้คือ นอนหลับยาก ระบบเผาผลาญไม่ดี สภาพผิวจะเริ่มบางลง มีความยืดหยุ่นลดลง แห้ง และเหยี่ยวย่นง่ายขึ้น ที่สำคัญสุ่มเสี่ยงต่อภาวะกระดูกพรุนเหนื่อยง่ายๆ ดังนั้นคนวัยนี้ควรเสริมแคลเซี่ยมและสารสกัดจากใบแปะก๊วย ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในสมอง ทำให้ผนังหลอดเลือด มีความยืดหยุ่นและแข็งแรงอีกทั้งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ หมั่นออกกำลังกายเบาๆ อย่างวิ่งเหยาะๆ โยคะ ว่ายน้ำ ควบคู่กับการรับประทานที่มีประโยชน์ ลดไขมันและจำพวกคาร์โบไฮเดรตลงเพราะอ้วนง่ายและลดน้ำหนักยาก

2.อสังหาริมทรัพย์
คนในวัย 40 คือวัยที่มีความมั่นคงทางการเงิน คนวัยนี้จะเป็นวัยที่มีบ้าน คอนโด รถยนต์ รวมถึงอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ ที่สมบูรณ์พร้อม สำหรับคนมีครอบครัวการวางแผนชำระหนี้สิน ผ่อนบ้าน คอนโดให้สมดุลกับรายจ่ายจึงค่อนข้างจำเป็น เนื่องจากต้องแบกภาระค่าเล่าเรียนของบุตรที่ต้องเรียนสูงขึ้น บางคนกันเงินส่วนนี้แยกออกมา อาทิ คุณหมอ วัย 45 ปี แยกเงินส่วนส่งเสียลูกเรียน จำนวน 5 ล้าน ตลอดการศึกษา ขณะที่วางแผนเกษียรอายุตัวเองไว้ที่อายุ 60 ปี ต้องมีเงินเก็บในบัญชีอย่างน้อย 20 ล้านบาท ตัวอย่างเคสนี้คือมีการวางเป้าหมายหมายชัดเจนเพื่อทำให้เป้าหมายนั้นสำเร็จ สำหรับคนโสดของคนวันนี้ การมีบ้านเป็นของตนเองก็จำเป็นเช่นกัน และอาจจะมีภาระที่เบากว่า เพราะไม่ต้องมีภาระในด้านอื่นๆ อาทิ ครอบครัว บุตร เป็นต้น

3.การงานมั่นคง
หากคุณเริ่มออมเงินตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นวัยทำงานอายุ 20 ปี พอคุณอายุ 40 คุณจะรู้ว่า หากคุณเริ่มก่อนคนอื่น คุณก็จะสบายก่อนคนอื่นๆ คนวัยนี้ส่วนใหญ่ความมั่นคงทางการงานและความมั่นคงทางการเงิน ผลตอบแทนจะอยู่ในระดับที่น่าพึ่งพอใจ จนแทบจะไม่ต้องกังวลอะไร บางรายทำงานบริษัทก็จะได้ฐานเงินเดือนค่อนข้างสูง หรือหากเป็นผู้ประกอบการก็จัดอยู่ในช่วงรายรับ-รายจ่ายที่นิ่งกว่าจากเมื่อเริ่มก่อร้างสร้างตัว จึงได้เห็นคนวัยนี้ส่วนใหญ่มีตำแหน่งใหญ่โตและเลื่อนตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาของบริษัทชั้นนำค่อนข้างเยอะ แต่หากที่ผ่านมาคุณยังไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต คนวัยนี้จะลุกขึ้นมาได้เร็วกว่าคนวัยอื่น เพราะการสั่งสมประสบการณ์ชีวิตมารอบด้าน จึงทำให้มีสายตามองโลกทะลุ รู้ว่าอะไรควรไม่ควร เปรียบเหมือนเริ่มต้นชีวิตใหม่ซึ่งพ้นจากวัยผาดโผนมาแล้วอย่างสิ้นเชิง

4.เล็งการลงทุน
หากคุณใกล้เข้าวัย 40 หากยังไม่เคยลงทุนอะไรซักอย่างในชีวิต คุณอาจจะต้องคิดใหม่ เพราะการลงทุน เปรียบเสมือนการใช้เงินทำงานแทนและให้ผลตอบแทนที่มากกว่าการที่คุณนำเงินที่หามาได้ใส่ไว้ในธนาคารเฉยๆ โดยเฉพาะการลงทุนมากมาย ที่เวลานี้มีให้เลือกค่อนข้างเยอะ ขึ้นอยู่กับระดับความเสี่ยงที่คุณสามารถรับได้ ทั้งเล่นหุ้น กองทุนรวม พันธบัตรรัฐบาล เป็นต้น แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องทำก็คือ ศึกษาข้อมูลให้ดีที่สุด ก่อนการลงทุน

5.เตรียมพร้อมเรื่องประกันชีวิต
หากคุณยังไม่ได้ทำประกันชีวิตไว้เลย เข้าข่ายคุณประมาทในการใช้ชีวิตแล้วล่ะ เพราะไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับชีวิตบ้าง คุณอาจจะล้มป่วยกะทันหัน ตกงาน เสียชีวิต สิ่งเหล่านี้คือความเสี่ยง หากคุณไม่วางแผนชีวิตไว้ อาจจะลำบากภายหลังเพราะอาจตกเป็นภาระของคนในครอบครัว สิ่งเหล่านี้ หากคุณเป็นคนที่หาเลี้ยงครอบครัว และมีภาระ ถ้าเกิดขึ้น คนที่คุณดูแล อย่างพ่อแม่ ลูก อาจเดือดร้อน หากคุณไม่สามารถหารายได้ได้อีกต่อไป ซึ่งวิธีแก้ที่ดีที่สุดคือคุณต้องเตรียมพร้อม และการมีประกันเอาไว้ ก็น่าจะช่วยได้

6.กองทุนสำรองเลี้ยงชีพเพื่อตอนเกษียณ
เมื่อถึงจุดหนึ่งคุณจะรู้สึกเหนื่อย และอยากพัก เพราะคงไม่มีใครที่อยากทำงานไปตลอดชีวิต การออมไว้เพื่อเกษียณ จึงเป็นสิ่งสำคัญ หากบริษัทที่คุณทำงานอยู่ไม่มีกองทุนสบทบเพื่อตอนเกษียณ ก็ลองมองหากองทุนตามสถาบันการเงินที่เปิดไว้เพื่อออมและลงทุนเอาไว้เวลาเกษียณ หลายๆ กองทุนให้ผลตอบแทน ก็ถือเป็นการวางแผนที่อาจไม่ล่าช้าเกินไป

7.การออกไปเที่ยวเพื่อให้กำไรชีวิต
คนวัยนี้ส่วนใหญ่จะเริ่มมีความมั่นคงหลายๆ ด้าน จึงได้เห็นคนวัยนี้ส่วนใหญ่หันมาให้ความสำคัญกับตัวเองไม่น้อย โดยเฉพาะการหาเวลาว่างออกไปท่องเที่ยวยังสถานที่ต่างๆ ที่เคยอยากไปในอดีตแต่ก็ถูกจำกัดด้วยเวลาและฐานะการเงิน แต่ปัญหานี้จะไม่เกิดอีกแล้วกับคนวัยนี้ จึงได้เห็นคนวัยนี้ท่องเที่ยวและเดินทางบ่อย ทั้งในและต่างประเทศ ที่สำคัญคนวัยนี้จะเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเหนื่อยง่ายมากกว่าเมื่อก่อน เรี่ยวแรงอาจจะไม่เหมือนเก่า การตัดสินใจออกไปเที่ยวทันทีจึงเป็นสิ่งที่เห็นได้บ่อย ยิ่งสถานที่ที่ไปต้องใช้พลังกำลังขา เดินเยอะหรือใช้เวลาเดินทางหลายชั่วโมงอาจทำให้เหนื่อยและรู้สึกว่าต้องรีบเที่ยวเดี๋ยวจะเหนื่อยหนักไปกว่านี้

8.กัลยาณมิตรที่ดีเพียงหนึ่งคน คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
เป็นช่วงพิสูจน์ให้เห็นน้ำใจของมิตรแท้ หากคุณคบเพื่อนในวัยเดียวกันมาถึงช่วงเวลานี้ เชื่อได้ว่าบั้นปลายชีวิตของคุณจะไม่เงียบเหงาอีกต่อไป เพราะคุณจะมีเพื่อนคอเดียวกัน พูดคุยเรื่องที่สนใจเหมือนๆ กัน ดังนั้นการมีเพื่อนที่สนิทสักคนในช่วงวัยนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก อย่างคนมีคู่เพื่อนคู่คิดก็คงหนีไม่พ้นภรรยาหรือสามี ในขณะที่คนโสดก็อาจมีก๊วนคนโสดสำหรับนัดทานข้าว พูดคุย จะสามารถคลายความเหงาภายในใจได้เป็นอย่างดี

9.คืนกำไรกลับสู่สังคม
คนวัยนี้ผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านการใช้ชีวิตมาแล้วช่วงวัยหนึ่งจะเริ่มรู้สึกว่า เมื่อตัวเองมีเพียงพอแล้ว ไม่เดือดร้อนด้านฐานะการเงิน ส่วนใหญ่จะแบ่งปันเรี่ยวแรงที่มีอยู่ช่วยเหลืองานสังคมมากขึ้น เช่น บริจาคสิ่งของ เป็นต้น บางคนไม่ได้ลงแรงอาจจะช่วยด้วยกำลังเงิน เพื่อคนที่ด้อยโอกาสกว่า ถือเป็นการบำเพ็ญประโยชน์อีกทางที่ช่วยหล่อเลี้ยงหัวใจให้คนวัย 40 ปี รู้สึกมีคุณค่าในตัวเอง

แล้วคุณละ เวลานี้อายุ 40 ปีแล้วคุณทำครบทุกข้อหรือยัง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook