"วิสุ เสริมศิริมงคล" ปั้น Gun Knock สอนยิงปืนมาตรฐานอเมริกาที่แรกในไทย

"วิสุ เสริมศิริมงคล" ปั้น Gun Knock สอนยิงปืนมาตรฐานอเมริกาที่แรกในไทย

"วิสุ เสริมศิริมงคล" ปั้น Gun Knock สอนยิงปืนมาตรฐานอเมริกาที่แรกในไทย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คุณเป็นคนหนึ่งที่เคยเข้าไปในสนามยิงปืนหรือเปล่า คุณมั่นใจมากแค่ไหนว่าในนั้นปลอดภัย คุณเคยยืนล้ำอยู่ข้างหน้าแล้วมีคนถือปืนอยู่ข้างหลังหรือเปล่า ถ้าใช่ แค่นี้ก็บอกได้แล้วว่าสนามนั้นไม่มีระบบความปลอดภัยตามมาตรฐาน และเวลาที่คุณอยู่ในนั้น คือการเอาชีวิตไปเสี่ยง

มีผู้ชายคนหนึ่งชอบการยิงปืนอย่างจริงจัง เขาอยากสร้างมาตรฐานใหม่ อยากเปลี่ยนความเข้าใจและพฤติกรรมไม่ถูกต้อง ในการใช้ปืน เขาจึงตั้ง "สถาบันกันน็อค (Gun Knock Firearms Training)" และ "กันน็อค ไพรเวท ชูตติ้ง เรนจ์ (Gun Knock Private Shooting Range)" ขึ้นมา และยังได้รับเกียรติจาก "พีท-พีรพงศ์ เพิ่มแสงงาม" เจ้าหน้าที่ตำรวจนครลอสแองเจลิส (LAPD) มาเป็นที่ปรึกษาด้วย

"ป๊อก-วิสุ เสริมศิริมงคล" ผู้ก่อตั้งบอกว่า "กันน็อค" เป็นสถาบันสอนยิงปืนและสนามยิงปืนที่ได้มาตรฐานสหรัฐอเมริกา และแปลกใหม่ยังไม่มีใครทำในเมืองไทย เพราะเป็นการสอนยิงปืนควบคู่ไปกับสอนจิตวิทยาการต่อสู้ คือสอนให้ยิงปืนเป็นอย่างมีความปลอดภัย และสอนให้ใช้จิตวิทยากับคู่ต่อสู้ให้เป็น เพื่อจะได้ไม่ต้องใช้ปืนโดยไม่จำเป็น

กว่าจะมาเปิดโรงเรียนสอนคนอื่น เขาสนใจเรียนรู้จริงจังและใช้ความพยายามอย่างมากที่กว่าจะได้เรียนหลักสูตรผู้ฝึกสอนตามมาตรฐานสหรัฐอเมริกา

ป๊อกเป็นหนุ่มหน้าตี๋สไตล์เกาหลีอินเทรนด์จากครอบครัวที่ทำธุรกิจส่วนตัว เป็นลูกชายเจ้าของห้างเก่าแก่ย่านฝั่งธนฯ

เขาชอบการต่อสู้มาตั้งแต่เด็ก เพราะได้ฝึกวิชามวยไทยจากพี่เลี้ยงที่เป็นอดีตนักมวยชื่อดัง เขาชนะทุกครั้งที่เตะต่อยกับเพื่อนตามประสาเด็กทะเลาะกัน

เขาติดนิสัยใช้กำลังแก้ปัญหามาจนโต จนวันหนึ่งเขาคิดว่าควรจะเลิก แต่ก็ยังชอบการต่อสู้อยู่ จึงเบนมาที่การยิงปืน ศึกษาเกี่ยวกับการยิงปืน

หลายปีก่อนเขาไปเที่ยวสหรัฐอเมริกา แล้วไปเรียนการยิงปืนต่อสู้อย่างจริงจังกับครูฝึกที่มีชื่อเสียงเรื่องฝีมือและความเข้มงวด คือ สก็อต รีทซ์ (Scott Reitz) ที่สถาบัน ITTS (International Tactical Training Seminars) และได้เห็นความแตกต่างระหว่างมาตรฐานความปลอดภัยของที่นู่นกับที่เมืองไทย

"เราได้เห็นว่าสิ่งที่เราเข้าใจมาทั้งชีวิตมันไม่ใช่เลย เรื่องปืนที่เราเคยศึกษามาผิดหมด คนที่เราเคยเจอมาก็ผิดหมด เรื่องความเซฟตี้มันละเอียดอ่อนมาก มันมีกฎเขียนติดอยู่ว่า ห้ามชี้อาวุธปืน ให้ปฏิบัติเสมือนปืนทุกกระบอกมีกระสุนบรรจุอยู่เสมอ ในเมืองไทยผมไม่เคยเห็นใครทำได้เลย สก็อต รีทซ์ เขาทำเสมือนปืนทุกกระบอกมีกระสุนบรรจุอยู่เสมอ เขารุนแรงกับผมมาก ทั้งทุบ ทั้งผลัก ตวาดแรง ๆ ให้รู้ว่าเราทำผิด ไม่มีการเอาใจ ทั้งที่เราจ่ายตังค์ไปเรียน ทำให้ผมเข้าใจว่าเซฟตี้มันเกิดขึ้นได้จริงจากความเข้มงวดของเขา"

นั่นเป็นจุดเริ่มต้นความคิดที่ทำให้เขาอยากทำอะไรสักอย่างเพื่อเปลี่ยนแปลงมาตรฐานและพฤติกรรมของผู้ใช้ปืนในเมืองไทย จึงเกิดความคิดอยากเปิดโรงเรียนสอนยิงปืนขึ้นมา

จบจากคอร์สนั้นเขาติดใจอยากเรียนอีก อยากรู้ว่าที่สถาบันอื่นจะเป็นอย่างไร แตกต่างกันแค่ไหน จึงหาข้อมูลแล้วไปเรียนไพรเวตคอร์ส 3 คอร์สกับครูชื่อแมนนี่ ซึ่งเป็นเจ้าของ Phoenix Tactical Solutions เพียง 3 คอร์สนั้นเขาบอกว่าตัวเองเก่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

"หลังจากนั้น ผมกลับเมืองไทยแล้วผมฝึกอยู่ปีครึ่งก็ส่งวิดีโอไปให้เขาดูพัฒนาการ บอกเขาว่าถ้ากลับไปเรียนขอเรียนหลักสูตรสูง ๆ อยากเรียนเป็นครูฝึก ผมเชื่อว่าถ้าเราอยากจะเป็นครูฝึก เราห้ามมั่ว เพราะถ้าเรามั่ว คนอื่นจะเอาไปมั่วต่อ มันจะแย่มากฉะนั้น ถ้าเราอยากเป็นครูเราต้องสอบ พอไปถึงเขาไม่ให้ผมเรียนหลักสูตรผู้ฝึกสอน (Firearms Instructor) เพราะผมไม่ใช่พลเมืองอเมริกัน ผมพยายามขอเรียนเฉย ๆ ไม่สอบก็ได้ แต่ก็ไม่มีสถาบันไหนรับผมเลย จนผมพิสูจน์ตัวเองด้วยการเรียนและสอบผ่านหมดทุกหลักสูตรที่เขาอนุญาตให้เรียน สถาบัน Phoenix ถึงยอมรับผมเรียนหลักสูตรผู้ฝึกสอน ซึ่งผมเป็นคนไทยคนแรกที่เขารับเข้าเรียน รวมแล้วผมเรียนทั้งหมด 13 หลักสูตร"

เรียนจบกลับมาพร้อมความมั่นใจ จึงได้เปิด "กันน็อค" ขึ้นมา ภายใต้มาตรฐานสหรัฐอเมริกาที่จะต้องทำตามมาตรฐานอย่างเคร่งครัด ถ้าทำอะไรไม่ถูกต้องจะโดนยึดใบอนุญาตผู้ฝึกสอน

"กันน็อคจะเข้มงวดเรื่องความปลอดภัย และจะเป็นมาตรฐานอเมริกา 100 เปอร์เซ็นต์ อะไรที่ผมไม่เคยทำที่นู่น ผมก็จะไม่เอามาทำที่นี่ ผมมองอดีตแล้วรู้สึกว่าตัวเองโง่มากเลยที่เข้าไปอยู่ในสนามที่มีคนใช้ปืนอย่างไม่ถูกต้องเต็มไปหมด ผมเคยโดนลั่นไกใส่ข้างหลังสองครั้ง ในสนามที่ได้มาตรฐานของเมืองไทย

ที่มีคนดูแลอยู่ เจ้าหน้าที่ก็เห็น เขาบอกว่าปืนไม่มีลูก ไม่เป็นไรหรอก ผมก็เลยคิดว่าเราผิดหมดจริง ๆ ผมต้องจบเรื่องนี้ ถ้ายังชอบอยู่จะต้องไม่เอาตัวเองเข้าไปอยู่ในที่แบบนั้น

ที่ผ่านมาผมเจอคนเยอะมากพูดคำว่าเล่นปืน มีปืนสักกระบอกอยู่ที่บ้าน แล้วชวนคนที่มีปืนเหมือนกันเอาปืนมานั่งคุยกัน ที่นี่เราทำไม่ได้ จะเอาปืนออกมาเล่นไม่ได้ ปืนจะออกมาก็ต่อเมื่ออยู่หน้าแนวยิง เสร็จแล้วต้องเก็บให้เรียบร้อย เดินเข้ามาในสนามห้ามเอาปืนออกมาจากกระเป๋า จะเอาออกมาได้แค่ตอนยิง"

วิสุให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรงเรียนสอนยิงปืนของเขาว่า หนึ่งคอร์สรับผู้เรียนได้มากที่สุด 7 คน โดยเขาสอนเองคนเดียวและมีผู้ดูแล 3 คน ทุกคนที่จะเรียนต้องมาเริ่มพื้นฐานใหม่หมด ไม่ว่าจะผ่านการเรียนหรือมีประสบการณ์มามากแค่ไหนก็ต้องเริ่มใหม่ เว้นแต่ว่าใครมั่นใจว่าสามารถสอบผ่านมาตรฐานได้ และถ้าสอบผ่านจะให้เลื่อนไปเรียนหลักสูตรถัดไป คนที่จะเข้าเรียนได้ต้องอายุ 20 ปีขึ้นไป ถ้าอายุน้อยกว่านั้นต้องมีผู้ปกครองเซ็นอนุญาต

"เริ่มต้นต้องสอนเรื่องเซฟตี้ มีห้องให้ผู้เรียนเข้าไปเล่นปืนของเล่น 2 ชั่วโมง เป็นการละลายพฤติกรรม มีบอร์ดเป็นแนวที่ยิงได้ให้เขาฝึกว่าจะทำอย่างไร ยืนไลน์อย่างไร วางปืนยังไง ถ้าปืนติดขัดจะทำอย่างไร ฝึกเริ่มต้นทุกอย่าง ให้เข้าใจเรื่องความปลอดภัย ถ้าทำได้ถึงจะพาลงไปสนาม ถ้าเข้ามาแล้วเหนื่อยใน 2 ชม.แรก รู้สึกว่าไม่ใช่ ไม่อยากเรียน ผมจะคืนเงินให้ ถ้ายังไม่เข้าใจ ผมจะให้เขามาเรียนใหม่เป็นการส่วนตัว

เราเลือกรับคนตั้งแต่คุยโทรศัพท์ ลูกศิษย์เราค่อนข้างน้อย แต่ทุกคนที่เป็นลูกศิษย์เราพิสูจน์ได้หมดว่าทุกคนเซฟตี้จริง และมีมาตรฐานการยิงสูง คนที่อยากได้ใบรับรองจะต้องสอบให้ได้คะแนน 80 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป"

โดยส่วนตัวผมมีปืนอยู่ประมาณ 10 กระบอก เป็นปืนรูปแบบดั้งเดิมจากโรงงาน ไม่ปรับแต่ง และหลักการของสถาบันก็เป็นอย่างนั้น คืออยากให้ใครที่เรียนกับเราสามารถหยิบปืนอันไหนก็ขึ้นมา ก็ใช้ได้ ผมอยากฝึกให้เขาคุ้นเคยกับปืนแบบดั้งเดิม บางคนเคยชินกับรูปแบบปืนของตัวเองที่ผ่านการปรับแต่งแต่ไม่รู้ว่าจะใช้ปืนรูปแบบอื่นยังไง"

ครูฝึกหนุ่มบอกถึงประโยชน์ที่ได้จากการเรียนยิงปืนว่า

"การเรียนยิงปืนสำหรับผม ถ้าใครเรียนกับผมทุกคนจะกลัวปืนเคารพปืนมาก จะปฏิบัติกับปืนเหมือนเราต้องกลัวมันมาก ๆจะไม่เล่นปืนอีกแล้ว จะไม่บอกภรรยาว่าถ้ามีอะไรหยิบปืนใช้ได้เลยนะ ทั้งที่ภรรยาไม่มีความรู้เรื่องปืนเลย เพราะถ้ามันลั่นไกแม้แต่นิดเดียวนั่นคือชีวิต ผมสอนให้กลัวปืนก่อน แล้วสมาธิจะตามมา แล้วเรียนรู้วิธีใช้ปืนรู้วิธีการสื่อสารกับคู่ต่อสู้ บางครั้งอาจไม่ต้องยิงปืนเลยก็ได้"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook