ตำนานกระซิบรักบันลือโลก ปู่ม่านย่าม่าน

ตำนานกระซิบรักบันลือโลก ปู่ม่านย่าม่าน

ตำนานกระซิบรักบันลือโลก ปู่ม่านย่าม่าน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คุณบอกรักแฟนกันที่ไหนครับ คุณอาจจะบอกรักแฟนได้ทุกวัน แต่มีสถานที่ไหนบ้างที่คุณคิดว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การบอกรัก และโรแมนติกที่สุด ซึ่งจะว่าไปแล้วในโลกใบนี้มีสถานที่ที่เหมาะแก่การบอกรักกันอย่างมากมากมายเสียเหลือเกิน สถานที่ซึ่งนิยมกันเป็นอย่างมากคงไม่พ้น สวนซากุระ ประเทศญี่ปุ่น, Seoul Tower ประเทศเกาหลี หรือ สะพานปงเดอซาร์ต ในกรุงปารีส ฝรั่งเศส ฯลฯ แล้วในประเทศไทยล่ะมีที่ไหนบ้าง

คำตอบนั้นได้หักลำขึ้นเหนือไปอยู่ที่นี่เพียงแห่งเดียวครับ ณ วัดภูมินทร์ จ.น่าน ต่อหน้าภาพ “ปู่ม่านย่าม่าน” ตำนานว่ากันว่าเป็น “ตำนานกระซิบรักบันลือโลก” ภาพแห่งความรักที่เป็นตัวบ่งบอกว่าได้ดีที่สุดครับว่า “ความรักนั้นอยู่เหนือกาลเวลา” นั่นเองที่กล่าวว่าเป็นความรักที่อยู่เหนือกาลเวลานั้น เป็นเพราะภาพ “ปู่ม่านย่าม่าน” หรือ “ภาพกระซิบรัก” เป็นภาพงานจิตรกรรมฝาผนังที่ถูกวาดขึ้นในช่วงปี พ.ศ.2410-2417 โดยหนานบัวผัน ศิลปินชาวไทลื้อ

ซึ่งวาดขึ้นในวาระที่ทางวัดได้ทำการบูรณะปฏิสังขรณ์พระอุโบสถ โดยมีช่วงเวลาตรงกันกับสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 นับเวลาอายุของภาพแล้ว มีอายุอานามมากกว่า 140 ปี แต่ภาพของคู่รักคู่นี้ยังคงความสมบูรณ์และยังเป็นคงภาพแห่งการบอกรักกันมาอย่างยาวนานจนถึงปัจจุบันนี้นั่นเอง ภาพ “ปู่ม่านย่าม่าน” เป็นหนึ่งในภาพที่มีชื่อเสียงของงานจิตรกรรมฝาผนัง ด้วยได้รับการยกย่องว่าเป็นภาพที่มีความสมบูรณ์แบบที่สุดทั้งด้านองค์ประกอบและอารมณ์การรังสรรค์ ภาพดังกล่าวเป็นภาพที่แปลกแยกจากรูปอื่น ๆ

โดยวาดเหนือภาพพระเนมีราชท่องนรกและสวรรค์ของชาดก เรื่อง เนมีราช ซึ่งภาพดังกล่าวเป็นภาพชายชาวพม่านำมือมาเกาะที่ไหล่ของหญิงสาวชาวพม่า แสดงท่าทางกระซิบกระซาบหยอกล้อ บอกรักต่อกัน มีนัยตากรุ้มกริ่ม แสดงออก
ให้เห็นถึงความรักใคร่ที่ฝ่ายชายมีต่อหญิงสาว ซึ่งออกไปในทางน่ารักงดงาม แต่มิได้แสดงออกไปในทางหยาบโลน หรือเชิงชู้สาว ลามก หรือไปในทางกามารมณ์แต่อย่างใด ใครก็ตามหรือคู่รักใด ๆ ก็ตามเมื่อไปยืนอยู่หน้า “ปู่ม่านย่าม่าน”จะสัมผัสได้ถึงความรักที่แผ่ออกมาจากภาพจิตรกรรมฝาผนังแห่งนี้อย่างประหลาดทีเดียว

คำว่า “ปู่ม่านย่าม่าน” ในที่นี้ไม่ได้หมายถึงบุคคลในภาพวาดอยู่มานานจนแก่เป็นปู่หรือเป็นย่า แต่จริง ๆ แล้วคือชายชาวพม่าเมื่อเข้าสู่วัยที่เป็นผู้ใหญ่จะเรียกกันว่า “ปู่” ส่วนผู้หญิงเมื่อเข้าสู่วัยเป็นผู้ใหญ่จะเรียกกันว่า “ย่า” และคำว่า “ม่าน” นั้นก็หมายถึง “พม่า” ซึ่งเป็นคำเรียกที่คนไทยในสมัยก่อนใช้เรียกชาวพม่า ส่วนองค์ประกอบของรูปภาพ ฝ่ายหญิงแต่งตัวเต็มยศใส่เสื้อแบบหญิงพม่าโบราณ ส่วนฝ่ายชายถอดเสื้อสักยันต์ตั้งแต่พุงลงมาถึงต้นขา ที่ท้องสักเป็นลายคาดสีดำเรียกว่า “สักลาวพุงดำ” สักสีแดงเป็นรูปคนวิ่งบริเวณหน้าอก เรียกว่าการ “สักฝาง” สักเพื่อประดับประดาตนเอง และสื่อความหมายว่า ในบ้านของชายผู้นี้มีข้าทาสบริวารจำนวนเท่าไร ซึ่งเชื่อได้ว่าชายในภาพนี้เป็นผู้มีอันจะกินมากพอสมควร ถึงได้มีบริวารอยู่มากขนาดนี้ ซึ่งคู่รักใด ๆ ก็ตามที่มาบอกรักขอพรต่อหน้า “ปู่ม่านย่าม่าน” นอกจากจะหวังพรที่จะมีความรักยืนยงยาวนานแล้ว ยังหวังถึงความมั่นคงมั่งคั่งในชีวิตรักหรือชีวิตสมรสอีกด้วย

อย่างไรก็ตามการขอพรนั้นไม่ใช่อยู่ ๆ จะขอพรกันอย่างง่าย ๆ คู่รักโดยเฉพาะฝ่ายชาย จักต้องจำประโยคบอกรักที่สำคัญ ซึ่งแต่งและแปลโดยอาจารย์สมเจตน์ วิมลเกษม เป็นภาษาถิ่นพายัพ (ภาษาเหนือ) อันสละสลวย ไปพูดกระซิบบอกคนรักต่อหน้า “ปู่ม่านย่าม่าน” ความว่า

“คำฮักน้อง กูปี้จักเอาไว้ในน้ำก็กลัวหนาว
จักเอาไว้พื้นอากาศกลางหาว ก็กลัวหมอกเหมยซอนดาวลงมาคะลุม
จักเอาไปใส่ในวังข่วงคุ้ม ก็กลัวเจ้าปะใส่แล้วลู่เอาไปก็เลยเอาไว้ในอกในใจตัวชายปี้นี้
จักหื้อมันไห้อะฮิอะฮี้ยามปี้นอนสะดุ้งตื่นเววา…”

แปลเป็นภาษาภาคกลางว่า
“ความรักของน้องนั้น พี่จะเอาฝากไว้ในน้ำก็กลัวเหน็บหนาว
จะฝากไว้กลางท้องฟ้าอากาศกลางหาว ก็กลัว
เมฆหมอกมาปกคลุมรักของพี่ไปเสีย
หากเอาไว้ในวังในคุ้ม เจ้าเมืองมาเจอก็จะเอา
ความรักของพี่ไป
เลยขอฝากเอาไว้ในอกในใจของพี่ จะให้มันร้องไห้รำพี้รำพันถึงน้อง
ไม่ว่ายามพี่นอนหลับหรือสะดุ้งตื่น”

ทั้งนี้ก่อนขอพร คู่รักต้องไปทำการลอดซุ้มพญานาคคู่ขวัญที่อยู่ทางด้านหน้าพระอุโบสถเสียก่อน ซึ่งซุ้มพญานาคคู่ขวัญดังกล่าวมีอายุกว่า 400 ปี คู่รักต้องลอดเดินวนทวนเข็มนาฬิกาสามรอบ แล้วค่อยมาขอพรจาก “ปู่ม่านย่าม่าน” ความรักจะยั่งยืน ไม่จากกันนั่นเองมีผู้ตั้งข้อสงสัยว่า ภาพผู้ชายชาวพม่าจากภาพ “กระซิบรัก” อาจจะเป็นภาพของตัว “หนานบัวผัน” ศิลปินผู้วาดเอง แต่ก็ได้รับการปฏิเสธจากผู้เชี่ยวชาญว่า ตัวหนานบัวผันเป็นชาวไทลื้อ หาใช่ชาวพม่าไม่ แต่ก็ยังมีผู้ที่เชื่ออยู่ว่า รูป “ปู่ม่านย่าม่าน” ดังกล่าวอาจจะเป็นภาพที่แสดงความในใจของหนานบัวผัน ที่ต้องการสื่อถึงคนรักของเขาอยู่นั่นเอง

อย่างไรก็ตามครับ ในเดือนแห่งความรักนี้ หากใครมีความคิดที่จะไปสวีทกับคนรักของคุณที่ไหน ผมขอแนะนำที่วัดภูมินทร์ แห่งนี้แหละครับ ที่สุดของความคลาสสิกของความรักเหนือกาลเวลา ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน อยู่ที่จังหวัดน่าน และไม่ต้องห่วงเรื่องที่พักครับ มีที่พักรีสอร์ทริมน้ำบรรยากาศดีอากาศสดชื่นอยู่มากมาย นอกจากได้สวีทกับคนรักแล้ว ยังสนับสนุนการท่องเที่ยวไทยอีกด้วยนั่นเอง สำหรับ Legend ฉบับนี้สวัสดีครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook