สุดยอดมาก! เปลี่ยนตัวเองจากหนุ่มอ้วนน้ำหนักกว่า 200 กก.สู่น้ำหนัก 95 กก.

สุดยอดมาก! เปลี่ยนตัวเองจากหนุ่มอ้วนน้ำหนักกว่า 200 กก.สู่น้ำหนัก 95 กก.

สุดยอดมาก! เปลี่ยนตัวเองจากหนุ่มอ้วนน้ำหนักกว่า 200 กก.สู่น้ำหนัก 95 กก.
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

มันยอดมากครับ สำหรับหนุ่ม กิด อุกฤษณ์ ที่สามารถเอาชนะใจตัวเองได้ ด้วยการลดน้ำหนักจาก 198กก. มาสู่ 95 กก. แต่ก่อนจะมาถึงวันนี้หนุ่มคนนี้ต้องทำยังไงบ้างนั้นมาติดตามกันเลยครับ

สวัสดีครับ ขอแนะนำตัวก่อนนะครับ ผมชื่อ อุกฤษณ์ รุ่งจรูญ ชื่อเล่น กิด อายุ 29 ปี ครับ วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์การลดน้ำหนักมาให้ทุกคนได้อ่าน ผมเชื่อว่าทุกคนผอมได้ หุ่นดีได้ หล่อและสวยได้โดยไม่ต้องใช้ยาลดน้ำหนักครับ (จากตัวประหลาดในสายตาคนทั่วไป จนกลายมาเป็นมนุษย์ คนปกติทั่วไป) ผมเป็นคนหนึ่งที่น้ำหนักตัวเกือบ 200 กก. เป็นอะไรที่ไม่อยากจะเชื่อเลย ผมเป็นคนชอบกิน เที่ยว โดยไม่เคยสนใจน้ำหนักตัวว่าขึ้นหรือลง และผมก็ไม่อยากเชื่อว่าผมจะลดน้ำหนักได้ขนาดนี้ ที่ผมเขียนว่า ภาค1 เพราะมันต้องมีภาค2 เป้าหมายของผมคือ น้ำหนักอยู่ที่ 70-75 กก. ดังนั้นโปรดติดตามนะครับ

แรงบันดาลใจ ทำไมผมถึงลดน้ำหนัก
เพราะตอนที่ผมน้ำหนัก198กก. มันเป็นอะไรที่ลำบากมากๆ และเกือบตายมาแล้ว ตอนขับรถมันจะรู้สึกง่วงตลอดเวลาทำให้หลับในรถเกือบเสียหลักขับ อย่าว่าแต่ขับรถเลย ขนาดนั่งทำงานหรือนั่งเฉยๆก็หลับ แย่มากๆ และผมทำเพื่อ พ่อกับแม่ด้วยครับ เค้าอยากให้ผมลดน้ำหนัก อีกอย่างคือ คน เวลาไปไหนคนที่เห็นผมก็จะมองหัวเราะเราอย่างกับเราเป็นตัวประหลาดอะไรประมาณนั้นเลยทำให้ผมไม่อยากออกไปไหน เรื่องมันเศร้าไหมล่ะครับ สิ่งเหล่าจึงทำให้มันเป็นแรงบันดาลใจให้กับผม

ทำยังไงถึงลดน้ำหนักได้
ตอนแรกผมก็ไม่คิดว่าจะลดได้จึงตัดสินใจไปหาหมอที่โรงพยาบาลศิริราช แต่ก็ต้องรอนัดหมอถึง3เดือน แต่ก็มีข่าวดีครับ ผมได้รู้จักกับเทรนเนอร์คนหนึ่งพี่เค้าเป็นนักเพาะกาย ตอนที่เค้าไปผมก็ไม่คิดหรอกว่าจะมาถึงขนาดนี้ เทรนเนอร์ได้สอนการเวทเทรนนิ่ง สอนการคาดิโอ ได้จัดตรางอาหารให้ และให้ความรู้อีกมากมาย เกี่ยวกับการออกกำลังกาย ผมใช้เวลาในการเวทเทรนนิ่งทุกวัน วันละ1ชั่วโมง และใฃ้เวลาในการคาดิโอวันละ3ครั้ง ครั้งละ45นาที แรกๆเหนื่อยและหิวมากครับ จนผ่านไป1เดือนเริ่มเห็นผลเลยทำให้มีกำลังใจออกกำลังกายและคุมอาหารเป็นเวลา1ปี5เดือนจนน้ำหนักเหลือ95กก.ครับ

การออกกำลังกาย
ผมจะออกกำลังกายด้วยการเวทเทนร์นิ่งและการคาดิโอครับ ช่วงแรกจะเวท 4วัน พัก1วัน และคาดิโอทุกวันครับ แต่พอฝึกแต่สัก5เดือน ผมก็เล่นเวททุกวันและคาดิโอเหมือนกันทุกวัน การเวทเป็นการเพิ่มกล้ามเนื้อครับก็จะมีท่าฝึกต่างๆแต่ละวันจะฝึกไม่เหมือน ส่วนการคาดิโอนั้นเป็นการลดไขมันหรือเอาไขมันออก การคาดิโอเช่น การวิ่ง การเดินเร็ว การปั่นจักรยาน การว่ายน้ำ ผมจะคาดิโอวันละ3ครั้ง ครั้งละ 30 นาที-1ชั่วโมงครับ

การคุมอาหาร
เทนร์เนอร์จะจัดตารางอาหารมาให้ผม ของผมมีการปรับตารางอาหารมา 2 ครั้งแล้วครับ เพราะพอน้ำหนักลงมาถึงจุดๆหนึ่งน้ำหนักจะค้างเลยต้องปรับตารางอาหารใหม่ครับ การคุมอาหารของผมจะกิน 5 มื้อ ครับ งดแป้ง งดน้ำตาล งดของมันของทอด นะครับ มาดูตารางอาหารกัน

ตารางอาหารครั้งแรก มื้อเช้า ข้าว100กรัม+เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน100กรัม+เนยถั่ว2ช้อน มื้อสาย เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน100กรัม มื้อเที่ยง ข้าว100กรัม+เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน100กรัม มื้อบ่าย เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน100กรัม มื้อเย็น ข้าว100กรัม+เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน100กรัม ส่วนผักกินได้เยอะหน่อยนะครับ

ตารางอาหารครั้งสอง มื้อเช้า ข้าว50กรัม+เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน50กรัม+เนยถั่ว2ช้อน มื้อสาย เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน50กรัม มื้อเที่ยง ข้าว50กรัม+เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน50กรัม มื้อบ่าย เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน50กรัม มื้อเย็น ข้าว50กรัม+เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน100กรัม ส่วนผักกินได้เยอะหน่อยนะครับ ตามนี้นะครับ

การปรึกษาหมอที่โรงพยาบาลศิริราชครับ อาจารย์ นายแพทย์พรพจน์ เปรมโยธิน คุณหมอแนะนำในการลดน้ำหนักได้ดีมากครับ คุณหมอให้ใช้วิธี3อ. คือวิธีที่สุด 3อ.คือ

อ1.คืออาหาร หลีกเลี่ยงอาหารหวาน มัน เค็ม เลือกวิธีเตรียมอาหารด้วยต้ม นึ่ง ย่าง งดของทอด ผัด ที่ใช้น้ำมันมาก เลิกดื่มเครื่องดื่มรสหวาน เช่น น้ำหวาน น้ำอัดลม นมเปรี้ยว กาแฟเย็น ชาเขียว น้ำผลไม้กล่อง น้ำผลไม้รสหวาน

อ2.คือออกกำลังกาย จดจำไว้เสมอว่า "กิน" ให้เท่ากับ "การเผาผลาญ" หากไม่ออกกำลังเท่าที่เรากินเข้าไป เราจะมีพลังงานเหลือเก็บไว้เป็นไขมันรอบพุงเช่นเดิม

อ3.คือ อารมณ์ ต้องมุ่งมั่น จริงจัง อดกลั้น อดทน กับนโยบายการเปลี่ยนแปลงตนเอง อย่าให้อารมณ์ความอยากกินมาทำลายนโยบายลดพุงของคุณ ดังนั้น อารมณ์ ถือเป็นภารกิจแรกที่เราต้องทำให้ได้เลยเชียวล่ะ

ผมคิดว่าทุกคน ผอมและหุ่นดีได้ ประสบการณ์ของผมในครั้งนี้อาจเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับคนที่จะลดน้ำหนัก ร่างกายของคนเราไม่เหนือกัน มีหลายต่อหลายสูตรในการลดน้ำหนักแต่บางคนทำตามสูตรนั้นแต่ไม่ได้ผลก็อย่าพึ่งท้อนะครับ เราต้องลองปรับเปลี่ยนวิธีต่างๆดูมันต้องได้ผลแน่นอนครับ ผมต้องขอบคุณ พ่อ แม่ ญาติๆผมที่ได้ให้กำลังใจมาตอลด ขอบคุณเทนร์เนอร์ RONNYBIG หรือ RON NITHIOUTHAI ที่ทำให้ผมผอมได้

ขอบคุณ อาจารย์ นายแพทย์พรพจน์ เปรมโยธิน ที่ให้คำแนะนำ แล้วเจอกัน ภาค2นะครับ ที่น้ำหนักผม 70-75 กก. 555

ติดตามผมได้นะครับ FACEBOOK : อุกฤษณ์ รุ่งจรูญ, เทนร์เนอร์ FACEBOOK : RON NITHIOUTHAI

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook