“เวลาทําอะไรต้องรู้ให้จริง” วิริยะ พึ่งสุนทร

“เวลาทําอะไรต้องรู้ให้จริง” วิริยะ พึ่งสุนทร

“เวลาทําอะไรต้องรู้ให้จริง” วิริยะ พึ่งสุนทร
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ย้อนกลับไปวัยเด็กของคุณวิริยะ พึ่งสุนทร วันนั้น...ชีวิตที่คลุกคลีอยู่กับเรื่องของกลิ่นมาตั้งแต่เยาว์วัย เนื่องจากมีคุณทวดเป็นหมอยาสมุนไพรไทย อาจจะไม่ได้มีผลอะไรกับชีวิตเขามากไปกว่าความคุ้นเคยชินกับกลิ่นต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นตามวิถีของครอบครัว แต่วันหนึ่ง...เขาพบว่าสิ่งที่เขาคลุกคลีตลอดช่วงชีวิตในวัยเด็กนั้น กลับทําให้เขากลายเป็นคนที่มีภูมิความรู้ในเรื่องของกลิ่นเป็นอย่างดี บวกกับการเป็นคนที่ทําอะไรต้องรู้ให้จริง ช่วงหนึ่งเขาได้ไปศึกษาศาสตร์ความรู้เรื่องของกลิ่น เรื่องของน้ำหอม ตั้งแต่ขั้นพื้นฐานจนถึงระดับสูง ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการปรุง การแยกกลิ่น การสกัดฯลฯ ณ เมืองกลาสส์ ประเทศฝรั่งเศส กับกูรูนักผสมกลิ่นที่มีชื่อเสียงของที่นั่น เมื่อประสบการณ์วัยเยาว์ผสมกับการความตั้งใจใฝ่หาศาสตร์ความรู้

วันนี้เขาเป็นเจ้าของสินค้ากว่า 300 รายการ กว่า 20 คอลเลกชั่น รวมกว่า 120 กลิ่น ภายใต้แบรนด์ Nature Touch ที่ได้รับการตอบรับอย่างดี โดยเฉพาะในระดับโลก แต่กว่าจะมีวันนี้ ความสําเร็จที่เกิดขึ้นล้วนต้อง
ผ่านเรื่องราวให้ต่อสู้

พบกับเรื่องราวที่ให้ข้อคิดจากเจ้าของแบรนด์ไทยที่นําธุรกิจก้าวไกลไปสู่ตลาดโลกได้อย่างสวยงาม ในหน้าถัดจากนี้

เนเจอร์ ทัช เป็นแบรนด์ที่สร้างชื่อในหลายประเทศ อย่างโอเรียนท์ เอ็กซ์เพรส รถไฟท่องเที่ยวระดับ 6 ดาว (สายเอเชีย) ก็ใช้ผลิตภัณฑ์แบรนด์นี้ด้วย
ผู้บริหารของโอเรียนท์ เอ็กซ์เพรส เขาเคยใช้สินค้าเราจริง ๆ เขามีแบรนด์ที่ใช้ในโอเรียนท์ เอ็กซ์เพรส เป็นแบรนด์ดังของฝรั่งเศส แต่เขาชอบของเรา เขาเลยคิดว่าจะทํายังไงให้จีเอ็มคนอื่น ๆ ยอมรับ เขาจึงนําผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มาเรียงแล้วให้ทําการทดสอบโดยใช้วิธีปิดตาเพื่อทดสอบกลิ่น แล้วให้ลงคะแนน เราได้คะแนนเป็นอันดับ 1 เพราะกลิ่นของเรา เป็นยูนิเซ็กซ์ ผู้หญิงก็ใช้ได้ ผู้ชายก็ใช้ได้ ส่วนในเมืองไทยโรงแรมที่ให้โอกาสในการใช้สินค้าเราตั้งแต่เปิดบริษัทมาจนถึงทุกวันนี้ คือโรงแรมดุสิต เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาวของคนไทยที่ใช้ของของคนไทย แล้วฟีดแบ็กจากลูกค้าดีมากอย่างที่บอกกลิ่นจะยูนิคมาก ๆ เพราะเป็นกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของโรงแรมดุสิต เราทําให้เฉพาะที่นี่ ไม่มีที่ไหน

ปัจจุบันสินค้าถูกพัฒนาไปหลากหลายมากขึ้นแค่ไหนคะ
เนเจอร์ ทัช เรามี 24 คอลเลกชั่นโดยประมาณไลน์หนึ่งจะมีสินค้ากว่า 10 ชนิด เช่น โลชั่น เจลอาบน้ำ แชมพูครีมนวด แป้ง โลชั่น บอดี้ครีม บอดี้สครับ แฮนด์ครีม ฯลฯ แล้วเราก็พัฒนาตามที่ตลาดต้องการ จะมีสินค้าใหม่ ๆ อยู่เรื่อยๆ ซึ่งสินค้าใหม่ ๆ เกิดจากความต้องการของลูกค้าที่จะเป็นคนบอกเราเอง

ก่อนหน้าที่จะมาทําธุรกิจตัวนี้ เคยผ่านงานอะไรมาบ้าง
เคยทํามาสารพัดครับ เคยทําทั้งร้านอาหาร ร้านทำผม เปิดร้านขายของที่ไดมารู อย่างตอนเปิดร้านทําผม ลูกค้าเต็มร้าน แต่เราไม่เคยศึกษาตลาดมาก่อน แถวสีลม คนที่มาทําผมตอนเช้าคือพนักงานออฟฟิศ ซึ่งจะมาทําก่อนเข้าทํางาน จะมาสระแล้วก็ไดร์ ลูกค้าเต็มร้าน รวยแน่วิริยะ (ยิ้ม) แต่ยิ่งทํายิ่งขาดทุน เพราะร้านทําผมอยู่ได้ด้วยการซอย ดัด ทําสี สระ-เซ็ท ไม่กําไร สมัยนั้นแค่ 60 บาท แล้วผมต้องจ้างเด็ก เช่าหอพักให้เขา บางทีวันดีคืนดีช่างตัดหยุดไม่บอก ลูกค้ามานั่งรอเต็มร้าน เป็นอะไรที่เบื่อมาก เลิกมาทําร้านอาหาร เพราะผมเป็นคนชอบทําอาหารก็ทำร้านอาหาร ฝรั่งเศส เปิดที่เอราวัณแบงค็อก ขายดีมาก ร้านผมต้องเข้าคิว ผมจะกินอาหารร้านตัวเองยังต้องรอ 2 ชั่วโมง รวยแน่

เปลี่ยนอาชีพใหม่ พูดง่าย ๆ คือเขาจะขอเงินเดือนเพิ่มไม่งั้นจะไปอยู่ที่อื่น เราก็ให้เขา แต่พอสัก 6 เดือนมาอีกแล้วมาขอวันหยุดมากขึ้น ผมถามว่าทําไม เขาบอกเหนื่อย ผมบอกก็เอ็งไม่สอนคนอื่นเขา พอลูกค้ามากินมันก็ไม่เหมือนเดิมเพราะฉะนั้นถ้าคิดว่าคุณจะไม่สอน คุณก็ห้ามหยุด จนสุดท้ายเขาต้องยอมสอนคนอื่น ก็จะมีปัญหาแบบนี้บ่อย ๆ จริง ๆ ก่อนหน้านี้ผมเปิดร้านอาหารอยู่อีกหลายที่ แต่ที่ขาดทุนหนักคือตอนที่มีม็อบ ผมเจอหลายเด้งเลย เพราะปิดหลายเดือนมาก แต่เราต้องจ่ายเงินเดือนพนักงาน จ่ายค่าเช่า

พอกําลังจะดี มีม็อบอีก รอบนี้เจ๊ง ขาดทุน 7-8 ล้านบาท ทีนี้ปิดหมด ผมทํามาหลายอย่าง สมัยก่อนผมรู้จักกับสจ๊วตเยอะก็จะให้เขาเอาเครื่องสําอาง เอาน้ำหอมกลิ่นนั้นกลิ่นนี้เอาเข้ามาขายที่ทํางาน ทุกคนจะคิดว่าอีตาคนนี้เป็นเกย์หรือเปล่า (หัวเราะ) ผมบอกไม่ใช่นะครับ แต่เพราะผมชอบ แล้วเผอิญ บริษัทที่ผมทํางานทําเกี่ยวกับเรื่องกลิ่น เพราะเราทํางานโคกับบริษัทน้ำหอมที่ใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศส ผมอยู่กับบริษัทมา 18 ปี ด้วยความชอบเรื่องทางนี้ก็พยายามศึกษามาตลอด สุดท้ายมาเติบโตกับสิ่งที่คลุกคลีมาตั้งแต่เด็ก

เล่าให้ฟังหน่อยค่ะ ว่าผูกพันคลุกคลีกับเรื่องของกลิ่นอย่างไร
สมัยเด็ก ๆ ผมอยู่กับคุณทวด ซึ่งเป็นหมอยาไทยที่มีชื่อเสียงมาก คุณทวดเป็นหมอยามาจากเมืองจีน ถ้าเอ่ยชื่อแพหมอคร้าม ที่จังหวัดสมุทรสาคร จะรู้จักหมด ท่านเป็นผู้ทํายาแก้ไอโยคี ตั้งแต่เด็ก ๆ ผมคลุกคลีกับคุณทวดซึ่งปรุงยาไทยทุกวัน เพราะฉะนั้นทุก ๆ วันที่ได้กลิ่นสมุนไพรจะถามตลอด กลิ่นนี้เป็นกลิ่นอะไร ทําไมเวลาดมแล้วรู้สึกสบาย โล่งจมูก คุณทวดจะบอกว่าอันนี้เรียกว่าพิมเสน อันนี้เรียกว่าการบูร ทุกวัน ๆ จะได้กลิ่น คุณปู่ผมก็ชอบ ท่านปลูกสมุนไพรเต็มบ้าน คุณพ่อศึกษาสมุนไพร ผมว่ามันมาทางสายเลือดนะ (ยิ้ม) เวลาได้กลิ่นแล้วรู้สึกสบาย

อย่างตอนเด็ก คุณทวดเคยบอกว่าอย่าไปนั่งเล่นใต้ต้นราตรีนะ เดี๋ยวผีมาเอาตัวไป ผมเก็บความสงสัยไว้ตั้งแต่เด็กทําไมผีต้องมาเอาตัวไปด้วย พอได้เรียนเกี่ยวกับอโรมาเธอราปีถึงรู้ว่ามันมีเหตุและผลของมัน ความสงสัยเลยหายไป ไม่ใช่ผีมาเอาตัวไปหรอก (ยิ้ม) อาจจะเป็นกุศโลบายแค่นั้น คนที่เป็น โรคความดันต่ำจะมีโรคหัวใจรวมอยู่ด้วย ฉะนั้นการไปดมดอกไม้กลิ่นฉุน ๆ อย่างดอกราตรี ซึ่งตอนกลางคืนจะส่งกลิ่นแรง กลิ่นดอกไม้แรง ๆ ส่วนใหญ่จะทําให้ความดันลดลงรับเข้าไปมาก ๆ ก็ทําให้ร่างกายแย่ได้ อาจจะทําให้หัวใจวายตายได้ แล้วคนจะพูดต่อมาเรื่อย ๆ ว่าคนเหล่านั้นถูกผีมาเอาตัวไป เพราะไปนั่งเล่นใต้ต้นราตรีตอนกลางคืน ผมเก็บความสงสัยจนมารู้ว่ากลิ่นมันมีผลต่อการเต้นของหัวใจ

ตรงกันข้ามกับคนที่เป็นความดันสูง จะชอบกลิ่นดอกไม้มาก เพราะว่ากลิ่นดอกไม้ส่วนใหญ่จะทําให้ความดันลดลง แต่ถ้าเป็นความดันต่ำจะมีความรู้สึกดมดอกไม้กลิ่นแรง ๆ ไม่ได้เลย จะเวียนหัว คนเป็นความดันต่ำจะชอบกลิ่นยาดมยูคาลิปตัส มิ้นท์ เมนทอล เพราะกลิ่นเหล่านี้ทําให้รู้สึกสบาย มันมีผลชัดเจนครับ มีเคสที่ผมเคยไปเป็นวิทยากรสอน มีแม่ลูกคู่หนึ่งมาเรียนเรื่องอโรมาฯ แม่เป็นความดันสูง ลูกเป็นความดันต่ำเป็นมานานไม่หายเสียที พอเรียนเรื่องกลิ่น ผมให้เขาดม แม่บอกชอบจังเลยดอกราตรี ดอกลีลาวดี

พอลูกดม ลูกมีอาการทันที ผมก็บอกว่าคุณเป็นความดันต่ำใช่ไหม เขาบอกว่าเป็น เขาถามว่าทําไมยิ่งแย่ลง ทําไมไม่ดีขึ้น เพราะเขาก็ทานยา ผมเลยถามแม่ว่าที่บ้านปลูกดอกไม้ประเภทนี้เยอะไหม แม่บอกปลูกเต็มบ้านเลย แก้ว โมก ราตรี หอมไปทั้งบ้าน เพราะแม่เป็นความดันสูง แม่ดมแล้วสบาย ลูกจะตายเอา แต่หาสาเหตุไม่เจอ ยิ่งห้องนอน ลูกสาวปลูกไว้ริมหน้าต่างเลย ผมจะมีเคสหลายเคสที่เป็นลักษณะนี้ ทําให้ชอบศึกษาเรื่องกลิ่น เพราะมันไม่ใช่แค่เรื่องของกลิ่น แต่เขาเรียกกันว่าอโรมาเธอราปี คือการบําบัดด้วยกลิ่น แต่ตอนเด็ก ๆ ไม่คิดหรอกครับ ในวัยเด็กคือดมแล้วสบายดมแล้วชอบแค่นั้นเอง จากที่เรารู้สึกง่วงนอนทําไมเราตื่นมาแล้วสดชื่น อย่างกลิ่นที่มีส่วนผสมของส้ม มะกรูด มะนาว ดมแล้วสดชื่น เพราะกลิ่นเหล่านี้ให้พลังงาน รู้สึกกระปรี้กระเปร่า แต่ตอนนั้นไม่ได้คิดขนาดนั้น แค่รู้สึกดมกลิ่นแล้วหอมสดชื่น...

อ่านบทสัมภาษณ์เพิ่มเติมได้ที่นิตยสารขวัญเรือน no.1053 vol.45 October 2015

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook